บลจ.ไทยพาณิชย์ออกทริกเกอร์ฟันด์ 1 พันลบ.เป้า 6% ใน 7 เดือน ขายพรุ่งนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 20, 2015 14:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บลจ.ไทยพาณิชย์ ออกทริกเกอร์ฟันด์ ขนาด 1 พันล้านบาท ตั้งเป้าผลตอบแทน 6% ใน 7 เดือน เตรียมเสนอขายวันที่ 21-25 ส.ค.นี้ หลังมองโอกาสเข้าลงทุนในหุ้นไทยที่ปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวในระดับต่ำกว่า 1,400 จุด ขณะที่คาดว่าตลาดหุ้นไทยในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้าดัชนีจะค่อยๆปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

"บริษัทฯมองว่าจากเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น จะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น โดยมีมุมมองแนวโน้มการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยสำหรับช่วง 6-12 เดือนข้างหน้าคาดว่าดัชนีจะค่อยๆปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากความคืบหน้าของโปรเจคโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ตลอดจนเงินบาทที่อ่อนค่าเป็นปัจจัยหนุนให้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก"นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าว

นายสมิทธ์ กล่าวว่า การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีแรงซื้อของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) ที่จะเข้ามาหนุนตลาดในช่วงปลายปีด้วย

โดยการที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1,400 จุด จึงเป็นโอกาสและจังหวะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย ทำให้บริษัทฯได้ออกกองทุนทริกเกอร์อีก 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ทริกเกอร์ 3% พลัส 3% ฟันด์ เฮช (SCBTG3P3H) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เสนอขายระหว่างวันที่ 21-25 สิงหาคม 2558 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท

ทั้งนี้ กองทุน SCBTG3P3H มีกลยุทธ์ในการเข้าลงทุนในหุ้น Low beta ซึ่งเป็นหุ้นที่มีการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่ค่อยผันผวนรุนแรงเมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) โดยเน้น 3 กลุ่มหลักคือ 1. Story Driven อาทิเช่น โครงสร้างพื้นฐาน, ผู้ประมูล 4G และหุ้นที่จ่ายปันผลระหว่างกาล 2.หุ้นดีที่ราคาปรับลดลงมากเกินปัจจัยพื้นฐาน และ 3.หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากภาวะอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำและเงินบาทอ่อนค่า นอกจากนี้กองทุนยังมีความยืดหยุ่นโดยไม่มีการกำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน และสามารถใช้ตราสารอนุพันธุ์ (Derivatives) เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน

สำหรับกองทุนนี้ตั้งเป้าหมายผลตอบแทน 2 ครั้งๆ ละ 3% ภายในระยะเวลา 7 เดือน เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเข้าเงื่อนไขตามที่กำหนด คือ ครั้งที่ 1 เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.30 บาทต่อหน่วย ณ วันทำการใด โดยจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ 3% ของมูลค่าที่ตราไว้ 10 บาท ส่วนครั้งที่ 2 หากมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.8505 บาทต่อหน่วย ณ วันทำการใด และสามารถรับซื้อคืนอัตโนมัติได้ไม่ต่ำกว่า 10.7260 บาทต่อหน่วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ