VGI ชะลอลงทุนอาเซียน เน้นรุกสื่อออนไลน์ในปท.อยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการ 2-3 ราย

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 18, 2015 13:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมารุต อรรถไกวัลวที กรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการกลุ่มธุรกิจมีเดียในประเทศ 2-3 รายเพื่อรองรับการขยายงาน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขณะที่ได้ชะลอแผนการขยายธุรกิจในอาเซียนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากจะเน้นขยายงานในประเทศก่อน ที่ยังมีอีกหลายช่องทางที่น่าสนใจ เช่น การพัฒาสื่อโฆษณาบนออนไลน์ เป็นต้น
โดยภาพรวมของสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย (Out of Home Media) ในปัจจุบันเริ่มมีความสำคัญมากขึ้น จากพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไป มีการใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาในภาพรวมมีมูลค่าทางการตลาดรวมอยู่ราว 10,000 ล้านบาท โดย VGI ก็มีการพัฒนาสื่อโฆษณาอย่างต่อเนื่อง จากป้ายโฆษณา ป้ายภาพนิ่ง ป้ายไฟ ที่อยู่บนสถานีรถไฟฟ้า เป็นจอ LCD และเป็นจอ LED ที่มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น เพื่อสร้างความต้องการและกระตุ้นการขาย

พร้อมกันนี้บริษัทมองว่าธุรกิจที่มีการใช้สื่อโฆษณามากที่สุดคือ กลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักส์ ที่มีการลงทุนมหาศาล ซึ่งจะใช้สื่อโฆษณาบนโทรทัศน์เป็นหลัก เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายทั่วประเทศ ขณะที่สื่อโฆษณานอกบ้านจะจัดอยู่ในประเภทสื่อรองลงมา โดยสัดส่วนการโฆษณาของคอนซูเมอร์โปรดักส์บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส จะอยู่ประมาณ 47% และที่เหลือจะเป็นการโฆษณา เช่น โทรศัพท์มือถือ ประกันชีวิต รวมถึงสถาบันการศึกษาต่างๆ

สำหรับผลประกอบการในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายกำไรสุทธิงวดปีบัญชี 58/59 (1 เม.ย.58- 31 มี.ค.59) จะมากกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ 837.58 ล้านบาท เป็นไปตามรายได้สื่อโฆษณาบนพื้นที่รถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งมีการขยายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีอัตรากำไรสูงสุดในกลุ่มสื่อโฆษณาทั้งหมดของบริษัท และมีสัดส่วนรายได้ถึง 65% รวมถึงบริษัทได้ยกเลิกสัญญาการรับสิทธิในการบริหารและจัดการพื้นที่โฆษณาในโมเดิร์นเทรด เนื่องจากการบริหารจัดการพื้นที่โฆษณาในโมเดิร์นเทรดมีอัตราการทำกำไรต่ำ แต่การยกเลิกสิทธิดังกล่าวจะทำให้รายได้ของบริษัทในปีนี้น่าจะทำได้ราว 2.2 พันล้านบาท ต่ำกว่าระดับ 3,077.93 ล้านบาทในปีก่อน "สัดส่วนรายได้ของเราปัจจุบันจะมาจากสื่อบนบีทีเอสเป็นหลัก 65% office building 20% และที่เหลือจะเป็นการลงทุนอื่นๆ จากเดิมมีสัดส่วนรายได้มาจากสื่อบนบีทีเอสราว 55% โมเดิร์นเทรด 40% และที่เหลือเป็น office building โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ตัดสัดส่วนของโมเดิร์นเทรดออกไป หลังธุรกิจดังกล่าวไม่สร้างผลกำไร ขณะที่บริษัทก็หันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาสื่อบนออนไลน์ ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีนัยสำคัญในอนาคต"นายมารุต กล่าว

นายมารุต กล่าวว่า การพัฒนาสื่อโฆษณาบนออนไลน์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในงวดปีบัญชี 59/60 ซึ่งบริษัทมองว่าในอนาคตระบบการใช้ตั๋วร่วมจะมีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น โดยเป้าหมายภายในสิ้นปี 59 ตามแผนงานจะมีการใช้ระบบตั๋วร่วมครอบคลุมทั้ง รถไฟฟ้าบีทีเอส, รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที, รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์,มอเตอร์เวย์, ทางด่วน, รถโดยสารขององค์กรขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งจะทำให้กลุ่มเป้าหมายของการใช้บัตรแรบบิท (rabbit) ชัดเจนขึ้น ทำให้การโฆษณาบนสื่อออนไลน์ที่จะเข้าไปยังกลุ่มลูกค้าต่างๆจะสามารถเติบโตได้ และเชื่อว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้าจะสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีนัยสำคัญให้กับบริษัท

ขณะเดียวกัน VGI ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อช่วงบ่ายว่า บริษัทได้ขายหุ้นของบริษัท ไมดาส โกลบอล มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมและประกอบธุรกิจด้านการขาย การตลาด และการจัดหาพื้นที่สื่อโฆษณา จำนวน 1,937,500 หุ้น และสละสิทธิการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในไมดาสฯ ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทในไมดาสฯ ลดลงเป็น 18.53% จากเดิม 30%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ