KTB แจงไตรมาส 3/58 วูบหนัก 42.23% รับผลตั้งสำรองลูกหนี้รายใหญ่

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 21, 2015 18:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกรุงไทย(KTB)ประกาศผลประกอบการงวด 9 เดือน ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 21,724 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13.70 จากระยะเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมยังคงชะลอตัว ส่วนผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/58 มีกำไรสุทธิ 5,347 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 42.23 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการกันสำรองเพิ่มเติมลูกหนี้ขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเหล็ก

นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ KTB เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/58 เปรียบเทียบกับไตรมาส 3/57 ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนกันสำรองและภาษีเงินได้จำนวน 17,041 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.22 และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร จำนวน 5,347 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 42.23 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 20,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.71 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการขยายตัวของสินเชื่อ ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 8,867 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.75 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับงวด 9 เดือน ธนาคารมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร จำนวน 21,724 ล้านบาท ลดลงร้อยละ13.70 จากระยะเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ธนาคารได้กันสำรองเพิ่มเติมจำนวน 10,300 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3 ธนาคารได้กันสำรองเพิ่มอีก 6,700 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินสำรองเพิ่มเติมสำหรับลูกหนี้อุตสาหกรรมเหล็ก ขนาดใหญ่ นอกเหนือจากการกันสำรองตามปกติเดือนละ 700 ล้านบาท ส่งผลให้ธนาคารและบริษัทย่อยตั้งสำรองรวมจำนวน 21,692 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 59.69 ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง เพื่อรองรับความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ

ณ วันที่ 30 กันยายน 58 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 1,984,069 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 57 จำนวน 31,073 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.59 มียอดเงินรับฝากจำนวน 2,072,760 ล้านบาท ลดลง 78,508 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.65 จากสิ้นปี 2557 โดยลดลงจากการครบกำหนดของเงินฝากประจำเป็นหลัก

ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) รวม 91,532 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34,043 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 59.22 จากสิ้นปี 57 NPLs (gross) อยู่ที่ 4.03% โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากสินเชื่อด้อยคุณภาพกลุ่มลูกหนี้ 2 บริษัทในอุตสาหกรรมเหล็กเป็นสินเชื่อด้อยคุณภาพ ประมาณ 23,000 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่นับรวมNPLs ของลูกหนี้รายใหญ่ดังกล่าว ธนาคารจะมี NPLs จำนวน 68,476 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,987 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.11 จากสิ้นปี 57 NPLs (gross) อยู่ที่ 3.05% ส่วนใหญ่มาจากลูกค้า SME ขนาดเล็ก และลูกค้ารายย่อย ซึ่งค่อนข้างอ่อนไหวต่อปัจจัยทางเศรษฐกิจ

ธนาคารมีเงินกองทุนเท่ากับ 299,230 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.49 ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง โดยเป็นกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 225,067 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.65 ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ