ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง"คิงส์เมนฯ"ขาย IPO 60 ล้านหุ้น เข้า mai สิ้นปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 12, 2015 10:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.ธนชาต ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ.(K) เปิดเผยว่า K ได้ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยในขณะนี้สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 7 พ.ย.58 เพื่อเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ

ภายหลังการเสนอขายห้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นไอพีโอ และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

K เป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจากความเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจออกแบบและตกแต่งงานอย่างครบวงจร (One-Stop-Shop Solution)ไม่ว่าจะเป็นงานตกแต่งภายในครบวงจร (Interiors), งานแสดงสินค้าและนิทรรศการ (Exhibitions), งานการตลาดทางเลือก (Alternative Marketing) และงานพิพิธภัณฑ์ (Museums & Thematic Park) ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 26 ปี บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงชั้นนำระดับประเทศและระดับโลกที่มีศักยภาพในการเติบโตและมีศักยภาพในการแข่งขันสูง โดยลูกค้ากลุ่มดังกล่าวมีนโยบายในการทำการตลาดที่ต่อเนื่องและมีการกระตุ้นยอดขายสม่ำเสมอ ประกอบกับบริษัทฯ มีทีมงานที่มีประสบการณ์และเป็นมืออาชีพ ทำให้ผลงานมีคุณภาพและส่งมอบได้ตรงเวลา

นอกจากนี้ ในปี 58 คาดว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมมีการขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี อาทิ ธุรกิจงานตกแต่งภายใน ซึ่งมีสัดส่วนรายได้กว่าร้อยละ 50 ของรายได้รวมทั้งหมด ที่คาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัวของพื้นที่ค้าปลีกเพิ่มขึ้นอีกกว่า 2.0 ล้านตารางเมตรในปี 58-59 จากไตรมาส 1/58 ที่มีพื้นที่ค้าปลีกรวม 7.1 ล้านตารางเมตร และธุรกิจงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ ที่มีสัดส่วนรายได้ร้อยละ 40 ของรายได้รวมทั้งหมด ก็มีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองมีความมั่นคง นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศกลุ่ม MICE: (Meeting,Incentives,Conferences,and Exhibition) มีความมั่นใจในการเข้าร่วมชมงานในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งดังกล่าวนี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญในการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต

นายชยวัฒน์ พิเศษสิทธิ์ ประธานกรรมการ K เปิดเผยว่า การเข้าระดมทุนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินไปขยายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ลงทุนขยายโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ ที่ลำลูกกา คลอง 6 และใช้ลงทุนในโรงงานรังสิต-นครนายก คลอง 11 และใช้ลงทุนขยายธุรกิจในเมียนมาร์ รวมถึงชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคาร ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทางธุรกิจ ซึ่งบริษัทฯเชื่อมั่นว่าการขยายธุรกิจดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถในการแข่งขันได้ รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศในอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อีกด้วย

"เรามุ่งมั่น และมีความตั้งใจในการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และด้วยการเติบโตไปพร้อมกับการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจงานแสดงสินค้าในประเทศ รวมถึงโอกาสที่เปิดกว้างในการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากการเปิด AEC และเราได้เริ่มธุรกิจแล้วที่ประเทศเมียนร์มาร์ ซึ่งการขยายธุรกิจจะช่วยให้บริษัทฯมีรายได้ที่แข็งแกร่ง มั่นคง ละเติบโตอย่างยั่งยืนได้’ นายชยวัฒน์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ