บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE)และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/58 มีกำไรสุทธิ 1.07 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.04 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 2.64 พันล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.14 บาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์แนะ"ถือ"หุ้น TRUE ให้ราคาเป้าหมายที่ 10.34 บาท (ยังไม่รวมผลและต้นทุนของการได้ใบอนุญาต) แนะนำเพียงถือเท่านั้น แม้บริษัทจะชนะการประมูล 4G มาได้ แต่ด้วยราคาที่สูงถึงเกือบ 4 หมื่นล้านบาท ต้องถือว่าเป็นภาระให้กับบริษัทเช่นกัน อาจจะเห็นผลการดำเนินงานขาดทุนได้ แม้ปัจจุบันบริษัทจะมีลูกค้าในกลุ่มโมมายประมาณ 20 ล้านราย แต่ผลการทำงานของทรูโมบายยังคงติดลบ แนวโน้มผลการดำเนินงานที่ยังอาจจะขาดทุนต่อเนื่องได้ พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 10.34 บาท
ผลการดำเนินงาน 3Q58 กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,070 ล้านบาท -23% qoq เนื่องจากไตรมาสนี้บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและรายอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องประมาณ 1,016 ล้านบาท ในส่วนของผลการดำเนินงานก่อนค่าใช้จ่ายทางภาษี (ไตรมาสก่อนบริษัทมีรายได้ภาษีประมาณ 519 ล้านบาท) อยู่ที่ 317 ล้านบาท –64% qoq เนื่องจากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่สูงขึ้น ทั้งนี้กำไรจากการดำเนินงานปกติส่วนใหญ่ยังคงมาจากกลุ่มธุรกิจทรูออนไลน์เป็นหลัก ในขณะที่กลุ่มธุรกิจทรูโมบายและ ทรูวิชั่นยังคงขาดทุน โดยกำไรจากการดำเนินงานปกติของแต่ละกลุ่มธุรกิจอยู่ที่ 1,216 ล้านบาท, -787 ล้านบาท และ -320 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับราคาประมูล 4G ที่ได้มาที่ 39,792 ล้านบาท น่าจะส่งผลต่อผลการดำเนินงานอย่างมาก ปัจจุบันความสามารถในการทำไรของ TRUE ถือว่าต่ำสุดในกลุ่ม การที่ได้ต้นทุนมาสูงถึง 4 หมื่นล้านบาท คิดค่าตัดจำหน่าย 2,200 ล้านบาทต่อปี และมีกำไรจากการดำเนินงานปกติเพียงประมาณปีละ 2,000 ล้านบาทเท่านั้น ดังนั้นมีโอกาสที่ TRUE จะเผชิญผลการดำเนินงานขาดทุน
นอกจากนี้ Cash Flow ของ TRUE เองก็เป็นปัญหาสำคัญของ TRUE เช่นกัน แต่อาจจะไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน เพราะ TRUE มี DIF ซึ่งเป็นกองทุนที่ TRUE สามารถระบบเงินทุนจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนได้ รวมถึงยังสามารถใช้เงินกู้เพิ่มได้อีก ณ สิ้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมา TRUE มีภาระหนี้อยู่ประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 7.5 หมื่นล้านบาทคิดเป็น D/E ที่ 0.8 เท่า ถ้าคิดระดับ D/E ที่ 1.5 เท่า TRUE ยังสามารถกู้เพิ่มได้อีก 5 หมื่นล้านบาท ถ้ากู้เพิ่มก็อาจจะยิ่งทำให้ผลประกอบการทรุดลงไปอีกเหมือนก่อนที่จะเพิ่มทุนที่ภาระหนี้สูงเกินไป