MALEE ตั้งเป้าปี 59รายได้โต 20% ยอดขายในฟิลิปปินส์หนุน,ปีนี้โตกว่า 10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 16, 2015 12:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปัญญา ชุติสิริวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสสายงานนักลงทุนสัมพันธ์ และเลขานุการ บมจ.มาลีสามพราน (MALEE) เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้ปี 59 จะเติบโตได้ราว 20% หลังมีการรับรู้รายได้จากฟิลิปปินส์เข้ามา ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวสินค้ารายการแรกและเริ่มจัดจำหน่ายในประเทศดังกล่าวต้นปีหน้า ขณะที่ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากการส่งออกโดยรวมจะเพิ่มขึ้นเป็น 20-30% จากเดิมอยู่ที่ 25% ของรายได้รวม และวางงบลงทุนด้านการตลาดไว้ที่ 7% ของรายได้ จากปีนี้ 10%

ทั้งนี้การรับจ้างผลิตและส่งออกยังมีการเติบโตไปได้ค่อนข้างดี รวมถึงบริษัทฯยังมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพิ่มเติมอีกในปีหน้า เพื่อกระตุ้นยอดขายในประเทศให้เติบโตได้มากขึ้น โดยมองพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากยอดขายในช่วงไตรมาส 3/58 ที่เพิ่มขึ้น และน่าจะเพิ่มขึ้นต่อไปอีกในไตรมาส 4/58 ตลอดจนปี 59

ขณะที่บริษัทฯก็อยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) เพิ่มเติมอีก หลังจากจับมือกับพันธมิตร ประเทศฟิลิปปินส์ แล้วเพื่อเป็นการขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ตามแผนกลยุทธ์ในการดำเนินงานของบริษัท แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯจะยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ในประเทศฟิลิปปินส์ก่อน

นอกจากนี้ บริษัทฯมั่นใจรายได้ปี 58 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% โดยเฉพาะไตรมาส 4/58 ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ที่ประชาชนส่วนใหญ่มักจะออกมาจับจ่ายใช้สอยเพื่อเลือกหาสินค้าเพื่อมอบให้แก่กัน ทำให้บริษัทฯคาดยอดขายในไตรมาสนี้น่าจะโตไม่น้อยกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับบริษัทฯยังมีการออกโปรโมชั่น หรือแคมเปญเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงนี้อีกด้วย

พร้อมกันนี้ปีนี้บริษัทฯพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้น ให้อยู่ในระดับเดียวกันกับ 9 เดือนที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 33.2% จากปีก่อนอยู่ที่ 32.6% จากการควบคุมต้นทุนการผลิต และรักษาอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับที่ 5.68% จากปีก่อนอยู่ที่ 6.44% เนื่องด้วยที่ผ่านมาบริษัทฯมีค่าใช้จ่ายในส่วนของการทำโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นยอดขาย ประมาณ 282 ล้านบาท

"เรายังมีแคมเปญต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี เพื่อกระตุ้นยอดขาย และยังมีการทำการตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดรายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% ซึ่งน่าจะได้รับอานิสงค์จากช่วงเทศกาล และปีหน้าก็น่าจะเติบโตไม่น้อยกว่าปีนี้"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ