KTIS คาดรายได้ปี 59 โตกว่าปีนี้ ราคาน้ำตาลสูงขึ้นหนุน แม้ปริมาณอ้อยเข้าหีบลดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 17, 2015 12:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจชีวพลังงานและผลิตภัณฑ์ กลุ่มบมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) คาดปริมาณอ้อยเข้าหีบปี 59 จะลดลงราว 10% จากปีนี้มีปริมาณอ้อยเข้าหีบอยู่ที่ 9 ล้านตัน/ปี เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยแล้งเอลนินโญ ทำให้ได้ผลผลิตอ้อยไม่มากนัก

แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของธุรกิจในปีหน้า เนื่องจากราคาน้ำตาลปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะเข้ามาชดเชยปริมาณอ้อยที่ได้ลดลง รวมถึงยังมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจชีวพลังงานและผลิตภัณฑ์ ที่จะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันบริษัทฯอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลจากชานอ้อยจำนวน 2 โรง กำลังการผลิตโรงละ 50 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าชีวมวล จ.อุตรดิตถ์ คาดว่าจะขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนม.ค.59 และอีก 1 แห่ง ที่จ.นครสวรรณ์ คาดว่าจะสามารถขายไฟฟ้าได้ภายในไตรมาส 1/59

"เราค่อนข้างกังวลกับปัญหาภัยแล้งในปีหน้า ที่น่าจะทำให้ผลผลิตน้อยลง หรือน้อยกว่าการบริโภค แต่เรามองว่าโอกาสที่จะส่งผลกระทบไปถึงตัวรายได้คงยาก เนื่องจากแม้ว่าจะผลิตลดลง แต่ราคาน้ำตาลโลกมีการปรับตัวสูงขึ้น ก็อาจจะเข้ามาชดเชยตรงนี้ได้พอสมควร ประกอบกับเรายังมีธุรกิจชีวพลังงาน ที่จะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาในปีหน้า ซึ่งจะทำให้สัดส่วนรายได้ก็น่าจะปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ"นายณัฏฐปัญญ์ กล่าว

ขณะที่ บริษัทยังคาดการณ์รายได้ปีนี้จะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่อยู่ที่ 20,376 ล้านบาท และกำไรสุทธิ ที่น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 1,365 ล้านบาท จากราคาน้ำตาลที่ปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งลดลงไปอยู่ที่ระดับ 10.5 เซนต์/ปอนด์ ขณะเดียวกันในช่วงปลายไตรมาส 3/58 ราคาน้ำตาลได้ปรับตัวดีขึ้น มาอยู่ในระดับ 15 เซนต์/ปอนด์ ส่งผลทำให้ผลประกอบการในไตรมาสดังกล่าวออกมาดีกว่าที่คาดเล็กน้อย และน่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจในปีนี้ได้

ทั้งนี้ ยังต้องติดตามผลประกอบการในไตรมาส 4/58 ซึ่งราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกได้ปรับเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากความต้องการน้ำตาลของประเทศจีนเข้ามาช่วยกระตุ้น ประกอบกับค่าเงินของบราซิลเริ่มหยุดการอ่อนค่าลง และเมื่อพิจารณาจากปริมาณน้ำตาลทรายในอนาคตที่จะผลิตได้จากประเทศผู้ผลิตน้ำตาลทรายรายใหญ่ คาดว่าจะมีออกมาไม่มากจนเกินความต้องการ ก็เชื่อว่าราคาน้ำตาลโลกได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ซึ่งจะทำให้รายได้และกำไรของกลุ่มธุรกิจน้ำตาล KTIS ดีขึ้นในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ