LIT ศึกษาแตกไลน์ธุรกิจใหม่ในปี 60 มองการร่วมทุนหรือเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 24, 2015 10:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ลีซ อิท (LIT) กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มไลน์ธุรกิจใหม่ในช่วงปี 60 ซึ่งบริษัทมองหาการลงทุนทั้งในส่วนของการเข้าร่วมทุน, ซื้อกิจการ และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปีนี้ที่มั่นใจว่าจะทำรายได้และกำไรได้เติบโตเกินเป้าหมาย 30% และคาดว่าปีหน้าจะเติบโตได้อีกกว่า 30% ตามการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อ

โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/58 ของปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 3/58 จากการที่ภาครัฐฯจะเร่งรัดการเบิกจ่าย ส่งผลให้ลูกค้ามีความต้องการสินเชื่อเพื่อไปรับงานจากภาครัฐฯเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทเดินหน้าขยายฐานลูกค้าเอสเอ็มอี นอกเหนือจากกลุ่มไอที ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ ทั้งในแง่ของรายได้และกำไร จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ปรับตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังผลประกอบการ 9 เดือน ที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตแล้วถึง 50%

พร้อมคาดว่าพอร์ตสินเชื่อคงค้างสิ้นปี 58 จะเติบโตเกินเป้าหมายที่ 1,150 ล้านบาท จากปัจจุบันสามารถทำได้แล้ว 1,162 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายจะรักษาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 3% จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 2%

"ช่วงที่ผ่านมา พอร์ตสินเชื่อของ LIT เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ หันมาให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อในอุตสาหกรรมอื่นๆนอกเหนือกลุ่มไอที มากขึ้น โดยมีการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการสินเชื่อของลูกค้าเอสเอ็มอี เช่น สินเชื่อเพื่อเปิด L/C เพื่อลูกค้าที่ต้องการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ"นายสมพล กล่าว

นายสมพล กล่าวว่า สำหรับปี 59 บริษัทตั้งเป้าหมายมีรายได้ ,กำไรสุทธิ และพอร์ตสินเชื่อ เติบโตกว่า 30% จากปีนี้ โดยบริษัทคาดว่าจะมียอดปล่อยสินเชื่อขึ้นไปแตะระดับ 10,000 ล้านบาท จากการที่จะได้รับประโยชน์จากนโยบายการลงทุนของภาครัฐฯ รวมถึงจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆเพื่อให้ลูกค้าเอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบที่หลากหลาย และวางเป้าหมายจะมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างแตะ 1.4 พันล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์ในปีหน้าจะผลักดันการเปิดวงเงินใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นมากกว่าปัจจุบันสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มเห็นสัญญาณดีขึ้นเพื่อเพิ่มการรับซื้อลูกหนี้การค้า (Factoring) และยังเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ รวมถึงการผลักดันผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อค้ำซองประมูลงานหรือ Bid Bond โดยเฉพาะในรูปแบบ E Bidding ตอบสนองนโยบายภาครัฐในการเพิ่มอำนาจความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประมูลที่เป็นเอสเอ็มอีให้สามารถเข้าแข่งขันเสนอราคาได้อย่างทั่วถึงเป็นธรรม

"ด้วยกลยุทธ์เชิงบุกนี้จะเปิดโอกาสตอบสนองการเติบโตของพอร์ตลูกค้าเก่าโดยผลักดันให้ลูกค้าที่มีอยู่เดิมมาใช้สินเชื่ออื่นๆ มากขึ้นด้วย ซึงด้วยกลยุทธ์เชิงบุกเช่นนี้ ทีมผู้บริหารทุกคนเชื่อมั่นว่าปีหน้าก็จะเป็นปีที่ดีมากอีกปีหนึ่งของบริษัทที่สามารถส่งผ่านสัญญาที่ให้ไว้ว่าเราจะอ้วนขึ้นในทุกๆปีไม่ต่ำกว่า 30% ในช่วง 3 ปีแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ "นายสมพล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ