(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับฐานหลังดีดขึ้นแรง,ตลาดตปท.ไม่เอื้อ-น้ำมันยังต่ำ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 14, 2016 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลง หลังจากดีดตัวขึ้นแรงต่อเนื่อง 2 วัน ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ที่ร่วงลงกว่า 300 จุดจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก และราคาน้ำมันที่ยังอยู่ระดับต่ำ ประกอบกับการที่ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้อาจทำให้นักลงทุนขายทำกำไรออกมาได้ ท่ามกลางภาพรวมการลงทุนที่ยังไม่ดีนัก ซึ่งจะทำให้ตลาดเกิดการปรับฐานลงมา โดยมองแนวรับบริเวณ 1,265 และ 1,250 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,285 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลดลงในวันนี้ หลังจากภาพการลงทุนโดยรวมยังไม่ดีนัก โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อวานนี้ จากความกังวลของภาวะเศรษฐกิจโลก และราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งประเด็นเหล่านี้ก็จะเชื่อมโยงต่อตลาดหุ้นไทยเช่นเดียวกัน ประกอบกับตลาดหุ้นไทยดีดตัวขึ้นมาแรง 2 วันติดต่อกัน ทำให้เกิดโอกาสของการปรับฐานลงมา

สำหรับกลุ่มนักลงทุนที่ชี้นำตลาดในขณะนี้เป็นกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้เข้ามาซื้อและผลักดันให้ดัชนีดีดตัวขึ้น ส่วนนักลงทุนต่างชาติที่กลับเข้ามาซื้อสุทธิในช่วง 2 วันก่อนแต่ยังอยู่ในระดับไม่มากนั้นไม่ได้มีนัยต่อตลาด ขณะที่นักลงทุนบางส่วนที่ทำกำไรได้ในช่วงดัชนีดีดตัวขึ้นมาก็อาจจะกลับมาขายและกดภาพตลาดให้เกิดการปรับฐานได้

"สภาพตลาดตอนนี้นักลงทุนยังไม่มีความมั่นใจ เมื่อมี gain ระดับหนึ่ง ประกอบกับภาพรวมตลาดยังเป็น negative ก็อาจจะทำให้มีแรงขายกดดตลาดลงมาได้"นายเทิดศักดิ์ กล่าว

พร้อมให้แนวรับสำหรับวันนี้ที่ระดับ 1,265 และ 1,250 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,285 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(13 ม.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,151.41 จุด ร่วงลง 364.81 จุด (-2.21%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,526.07 จุด ดิ่งลง 159.85 จุด (-3.41%) ,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,890.28 จุด ลดลง 48.40 จุด (-2.50%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 330.70 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 75.55 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 355.96 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 72.52 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 23.10 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 41.45 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 3.24 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(13 ม.ค.59) 1,278.61 จุด เพิ่มขึ้น 23.31 จุด(+1.86%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 308.37 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 ม.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(13 ม.ค.59) ปิดที่ 30.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(13 ม.ค.59)ที่ 10.18 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 36.31/33 คาดอ่อนค่าตามภูมิภาค นักลงทุนยังกังวลเศรษฐกิจโลก
  • ตลาดหลักทรัพย์คุมเข้มบริษัทจดทะเบียน เปิดเผยข้อมูลชี้นำผลประกอบการ หวั่นนักลงทุนเกิดความเสียหาย สั่งเชือดแล้ว 2 บริษัท สั่งพักการซื้อขายทันที พร้อมให้ชี้แจงนักลงทุนก่อนเปิดซื้อขายใหม่ ด้านผู้บริหารบริษัทเผยตลาดเข้มงวดให้ข้อมูลมากขึ้น
  • กฎหมายภาษีมรดกมีผลบังคับใช้ 1 ก.พ.นี้ กำหนดมูลค่าทรัพย์เกิน 100 ล้านอยู่ในข่ายเสียภาษี ระบุทรัพย์ 4 ประเภทอยู่ในข่าย "อสังหาริมทรัพย์-หลักทรัพย์ที่จดทะเบียน-เงินฝาก-ยานพาหนะ" เผยผู้รับมรดกต้องยื่นชำระภาษีใน 150 วัน
  • นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารจะลงนามร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ร่วมทุนในกองทุนร่วมลงทุน หรือเวนเจอร์ แคปปิตอล เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ด้วยวงเงินประเดิมกองแรก 500 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินจากธนาคารออมสิน 400 ล้านบาท เงินจากตลท.อีก 100 ล้านบาท
  • นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม-ธันวาคม 2558) รัฐบาลจัดเก็บรายได้รวม 5.81 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6.45 หมื่นล้านบาท หรือ 12.5% เฉพาะการจัดเก็บรายได้ในเดือนธันวาคม 2558 รัฐบาลจัดเก็บได้ 2.35 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 5.7 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 32.6% โดยมีรายได้พิเศษจากการประมูลคลื่น 4จี รอบแรกที่เข้ามาล็อตแรก จำนวน 40,300 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงเดือนธันวาคม 2558 ทั้ง 3 กรมจัดเก็บภาษี คือ สรรพากร สรรพสามิต และศุลกากร จัดเก็บภาษีได้สูงกว่าเป้าหมาย 4,143 ล้านบาท
  • นายวิจิตต์ นิมิตวานิช นักวิชาการขนส่งทรงคุณวุฒิ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า สนข.อยู่ระหว่างการจัดทำแผนหลักการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเมืองภูมิภาค 78 เมืองทั่วประเทศ เพื่อใช้เป็นกรอบและภาพรวมของการจัดทำระบบขนส่งสาธารณะในแต่ละเมือง และการจัดทำแผนพัฒนาระบบการขนส่งสาธารณะในเขตเมือง ซึ่งจำแนกได้ 3 ประเภท คือ 1.กลุ่มเมืองศักยภาพสูง (แอล) จะทำแผนนำร่องในจังหวัดพิษณุโลกเพื่อใช้เป็นต้นแบบเมืองอื่นๆในกลุ่ม 2.กลุ่มเมืองศักยภาพปานกลาง (เอ็ม) นำร่องในจังหวัดอุบลราชธานี และ 3.กลุ่มเมืองศักยภาพพื้นฐาน (เอส) นำร่องในจังหวัดสระแก้ว คาดว่าแผนทั้งหมดจะจัดทำแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้
  • โบรกเกอร์คาดกำไรกลุ่มแบงก์ไตรมาส 4/58 ลดฮวบ 29% เหตุค่าใช้จ่ายดำเนินงานพุ่ง กำไรขายเงินลงทุนลด กรุงไทยหนักสุดฮวบทีเดียว 87% แต่ผลดำเนินงานทั้งปีของกลุ่มเว้นกสิกรกำไรเพิ่ม 3.7% อานิสงส์สินเชื่อผ่อนปรนช่วยเอสเอ็มอี
  • พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับการนำคลื่นความถี่ย่าน 2600 เมกะเฮิรตซ์ มาจัดสรรประมูลนั้น เป็นไปด้วยดี แต่ติดปัญหาที่ปัจจุบัน กสทช. ยังไม่มีกฎหมายที่ให้อำนาจจ่ายเงินเยียวยาได้ ดังนั้น จึงต้องรอร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ... ออกมาบังคับใช้ก่อน
*หุ้นเด่นวันนี้
  • AOT(บล.โกลเบล็ก) ระบุว่า Consensus ให้ราคาสูงสุด 420 บาท โดยคาดรายได้และกำไรเติบโตขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สสท.) คาดนักท่องเที่ยวปี 58 เติบโต 13% เป็น 28 ล้านคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ขณะที่โครงการสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ผ่าน EIA แล้วคาดเปิดประมูลได้ภายในปี 59 ช่วยหนุนต่อรายได้และกำไรในอนาคตเนื่องจากจะรองรับผู้โดยสารได้ 85 ล้านคน/ปี
  • TOP(บล.ไอร่า) ประเมินราคาเป้าหมายปี 59 อยู่ที่ 78 บาท โดยคาดผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/588 จะฟื้นตัวอย่างโดดเด่นจากค่าการกลั่นที่ฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ในระดับสูง ล่าสุดเช้านี้อยู่ที่ 10.11 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล รวมถึงในปี 59 คาดจะได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการโรงไฟฟ้า SPP และโครงการผลิตสาร LAB รวมถึงค่าการกลั่นคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะค่าการกลั่นของน้ำมันเบนซิน เนื่องจากปริมาณการใช้ที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ ขณะที่คาดทั้งปี 59 จะมีกำไรสุทธิ 13,310 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% และคาดว่าจะไม่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันอีก รวมถึงคาดได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำด้วย
  • CENTEL (บล.ซีไอเอ็มบี) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 46.50 บาท โดยมีปัจจัยหนุนจากข่าวเช้านี้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างทบทวนมาตรการภาษีส่งเสริมเที่ยวทั่วไทย ที่ให้นำใบกำกับภาษีค่าซื้อแพ็กเกจทัวร์ หรือค่าที่พักโรงแรมจากการท่องเที่ยวในประเทศไทย มาใช้เป็นค่าลดหย่อนเพื่อคำนวณภาษีได้ 1.5 หมื่นบาทต่อปี ที่ครบกำหนดไปวันที่ 31 ธ.ค.58 จะนำกลับมาใช้ใหม่เร็วๆ นี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ โดยจะพิจารณาขยายวงเงินหักลดหย่อนเพิ่มขึ้นอีก เพราะวงเงินเดิมยังไม่มากพอ และระยะเวลาการออกมาตรการที่เหมาะสม

ทั้งนี้ คาดว่า CENTEL จะรายงานกำไรปกติ 507 ล้านบาทในไตรมาส 4/58 เพิ่มขึ้น 6% จากงวดปีก่อน และ 73% จากไตรมาสก่อน และประมาณการกำไรปกติทั้งปีอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากปี 57 ทำให้คาดว่า CENTEL จะมีกำไรเติบโต 16% ในปีนี้และ 19% ในปีหน้า ซึ่งยังเป็นระดับที่ดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ