(เพิ่มเติม) "เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น"เล็งเข้าตลาดหุ้นครึ่งปีหลัง ระดมทุน 2-2.5 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 28, 2016 17:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 59 หากภาวะตลาดเอื้ออำนวย ซึ่งเลื่อนมาจากปี 58 โดยมี บล.ธนชาต เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน(FA) โดยบริษัทมีเป้าหมายระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ราว 2.0-2.5 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายโรงภาพยนตร์ และชำระหนี้

สำหรับการดำเนินงานในปี 59 บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 20% เป็น 5 พันล้านบาท กำไร 380 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 20% โดยมีแผนเปิดโรงภาพยนตร์อีก 5 สาขา คาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 600 ล้านบาท รีโนเวท 2 สาขาอีก 200 ล้านบาท พร้อมกันนี้ บริษัทยังศึกษาขยายสาขาโรงภาพยนตร์ในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งหากเป็นทำเลในเมืองหลวง 8-10 โรง เมืองรอง 4 โรง ได้เห็นไม่เกิน 1-2 ปี

นายสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หากครึ่งหลังปีนี้ภาวะตลาดเอื้ออำนวย และความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมา ซึ่งบริษัทแต่งตั้ง บล.ธนชาต เป็น FA เพื่อเตรียมยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)คาดหวังเงินที่จะจากการระดมทุนราว 2,000-2,500 ล้านบาท และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) ของบริษัทจะอยู่ที่ 8,000-10,000 ล้านบาท โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปขยายสาขาและชำระหนี้สถาบันการเงิน

"เราเตรียมตัวพร้อมมานานแล้ว ตอนนี้รอดูปัจจัย รอดูตลาดเงิน ซึ่งขึ้นกับปัจจัจนอกประเทศด้วย ถ้า Timing ไม่ดีก็ไม่เร่งรีบ ซึ่งตามแผนเดิมจะเข้าปี 58 แต่ตลาดชะลอลงมาน่าตกใจ ตอนนี้อยากให้ sentiment คน stable กว่านี้ รอความมั่นใจของนักลงทุนที่จะกลับมา แต่ตอนนี้ยังพบเงินทุนไหลออกตลอดเวลา อยากให้ตลาดหุ้นนิ่งกว่านี้"นายสุวัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ ธุรกิจที่นำเข้าจดทะเบียนในตลาดฯเฉพาะ 4 แบรนด์ของเครือเอส เอฟฯ ไม่รวมกิจการห้างสรรพสินค้าเมย่าที่ จ.เชียงใหม่

นายสุวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 59 แตะ 5,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 380 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 58 ที่มีรายได้ 4,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 300 ล้านบาท โดยการเติบโตในปีนี้จะมาจากการเปิดสาขาเพิ่มในปี 58 ทั้งหมด 5 สาขา และในปีนี้บริษัทมีแผนลงทุนเปิดสาขาเพิ่มอีก 5 สาขา ได้แก่ สาขาเดอะ คริสตัล เลียบทางด่านรามอินทรา-เอกมัย ซึ่งเปิดสาขาแรกของปี

ต่อจากนั้นจะเปิดสาขาบิ๊กซี บางพลี, เซ็นทรัล พลาซ่า นครศรีธรรมราช, เทอร์มินัล 21 และ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเพอร์ ลพบุรี โดยจะยังคงเป็นการผนึกกำลังกับศูนย์การค้าที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ คาดว่าจะใช้งบลงทุนรวม 600 ล้านบาท นอกจากนี้ มีแผนปรับปรุง 2 สาขาใช้งบอีก 200 ล้านบาท ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ และ MBK โดยใช้เงินลงทุนจากผลประกอบการ กำไรสะสม และกู้สถาบันการเงิน

นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนจะขยายออกไปเปิดสาขากลุ่มประเทศ CLMV โดยมองโอกาสในทุกประเทศ ซึ่งหากเป็นเมืองหลวงเบื้องต้นคงจะเปิดราว 8-10 โรง ส่วนเมืองรองลงไปจะเปิดไม่ต่ำกว่า 4 โรง คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1-2 ปีนี้ การลงทุนยังไม่สรุป เพราะต้องรอดูโลเคชั่นเป็นหลัก

ปัจจุบัน โรงภาพยนตร์ในเครือเอส เอฟ มีทั้งหมด 47 สาขา 316 โรง กว่า 70,000 ที่นั่ง ตั้งอยู่ใน กทม.และอีก 22 จังหวัด สำหรับโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีนีม่า สาขาเดอะคริสตัล นับเป็นสาขาที่ 47 ด้วยงบลงทุน 200 ล้านบาท คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนใน 5-7 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ