กสทช.เสนอทางออกยึดเงินเฉพาะงวดที่จ่ายไปแล้วหากทีวีดิจิตอลคืนไลเซ่นส์

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 3, 2016 17:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาทีวีดิจิตอลครั้งที่ 3 มีมติเห็นชอบแนวทางออกในการคืนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอล ซึ่งจะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช.พิจารณาในวันที่ 10 ก.พ.นี้

ทั้งนี้ ข้อเสนอของคณะทำงาน คือ การคืนใบอนุญาตสามารถทำได้ภายใต้หลักเกณฑ์สำคัญ คือ ความเสียหายที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งได้แก่การชำระค่างวดก่อน ๆ จะต้องตกเป็นของรัฐ และผู้ประกอบการไม่สามารถเรียกร้องคืนได้ แต่หลังจากคืนใบอนุญาตแล้วก็ไม่ต้องชำระเงินในงวดต่อไป ยกตัวอย่างกรณีการคืนใบอนุญาตในขณะนี้ เงินที่ผู้ประกอบการชำระในงวดที่ 1-2 จะต้องตกเป็นรายได้ของแผ่นดิน แต่งวดที่ 3-6 ที่เหลือ กสทช.จะไม่มีการเรียกร้องใดๆ

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานภาครัฐบางแห่งที่เกี่ยวข้องยังมีความเห็นขัดแย้ง โดยมองว่าการคืนใบอนุญาตดังกล่าวควรจะต้องชำระเต็มจำนวน ดังนั้น จึงต้องเสนอให้คณะกรมการ กสทช.พืจารณาเพื่อหาข้อยุติดังกล่าว

นอกจากนั้น คณะทำงานยังได้หารือในประเด็นการบริการจัดการใบอนุญาตที่ได้รับคืนมา โดยที่ประชุมได้อภิปรายร่วมกันและมีความเห็นตรงกันว่า เมื่อคืนใบอนุญาตแล้ว ไม่ควรนำใบอนุญาตนำกลับมาประมูลใหม่ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการรายอื่นๆ ที่เหลืออยู่สามารถแข่งขันและอยู่รอดได้

นายฐากร กล่าวว่า คณะทำงานยังจะเสนอการแก้ไขปัญหาในประเด็นอื่น ๆ ได้แก่ การจัดลำดับการเรียงเลขช่อง ซึ่งที่ผ่านมาทาง สำนักงาน กสทช.ก็ได้เร่งรัดให้ผู้ประกอบการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือประกาศของ กสทช.แต่ยังมีผู้ประกอบการบางรายยังขัดขืนไม่ปฏิบัติตาม

ส่วนประเด็นการสนับสนุนการสำรวจความนิยม (เรทติ้ง) ทีวีดิจิตอล คณะอนุที่ปรึกษากฎหมาย กสทช.เห็นว่าไม่ได้สอดคล้องกับมาตรา 52 (2) ที่เป็นการให้บริการทั่วไปเกี่ยวกับโทรทัศน์และวิทยุ ทาง กสทช.จึงมีมติร่วมกันว่าให้แนะนำสมาคมที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ทำหนังสืออุทรธ์ต่อประธาน กสทช. ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อชี้แจงต่อคณะอนุที่ปรึกษากฎหมายอีกครั้งหนึ่งว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับมาตรา 52 (2) ตามพ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ พ.ศ.2553

นายฐากร กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นเรื่องกฎ Must Carry มติที่ประชุมขอให้กฎดังกล่าวยังคงอยู่ต่อไป แต่ได้พิจารณาว่าผู้ที่จะเป็นผู้จ่ายเงินไม่ควรเป็นผู้ประกอบการช่องรายการ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นการให้บริการอย่างทั่วถึงต่อประชาชน ดังนั้น จึงควรเป็น กสทช.เอง ส่วนข้อเรียกร้องมให้ยกเลิกกฎ Must Carry ในอนาคตนั้นคงต้องขอให้มีการศึกษาให้รอบคอบก่อน

ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช.จะรวบรวมผลการประชุมแก้ไขปัญหาทีวิดิจิตอลทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมาเสนอต่อที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการ กสทช.อีกครั้งในวันที่ 10 ก.พ.59 เพื่อนำเรียนต่อนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อไป

ขณะประเด็นการค้างชำระค่าใบอนุญาตงวดที่ 2 ของบริษัท ไทยทีวี จำกัด ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอล 2 ช่อง คือ ไทยทีวีและเอ็มวีทีวี แฟมิลี่ (โลก้า) และไม่จ่ายตามกำหนดในวันนี้ หากสามารถประกาศหลักเกณฑ์การคืนใบอนุญาตได้ตามหลักเกณฑ์ข้างต้นที่คณะทำงานเสนอ ก็จะมีผลบังคับเป็นการทั่วไป รวมถึงกรณีของไทยทีวีก็น่าจะได้รับประโยชน์ในส่วนนี้ด้วย

แต่ ณ ขณะนี้หลักเกณฑ์ดังกล่าวยังไม่ได้รับความเห็นชอบ ดังนั้น บริษัท ไทยทีวี จำกัด ก็ยังต้องปฎิบัติตามมติ กสท.เมื่อวันที่ 1 ก.พ.59 ที่จะต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในวันที่ 8 ก.พ.59 เพื่อพิจารณาลงมติเพิกถอนใบอนุญาตของ ไทยทีวี และแจ้งธนาคารกรุงเทพ (BBL) ในฐานะผู้ออกหนังสือค้ำประกัน ชำระเงินประมูลทุกงวดวงเงิน 1,634.4 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ทันทีภายใน 30 วัน หลังจากมีมติ และหากไม่ชำระก็จะเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ