ทั้งนี้ การขยายคลังนำเข้า LPG ที่เขาบ่อยา จ.ชลบุรี เพิ่มเป็น 2.5 แสนตัน/เดือน จาก 1.3 แสนตัน/เดือนนั้น ปตท.ได้ใช้เงินลงทุนราว 1.66 หมื่นล้านบาทเพื่อรองรับการนำเข้า LPG ที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงนั้น จากการที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูงและรัฐบาลตรึงราคา LPG ทำให้ความต้องการใช้ LPG เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่เมื่อการขยายคลังนำเข้าจะแล้วเสร็จ ความต้องการใช้ LPG กลับลดลง โดยข้อมูลของกระทรวงพลังงานพบว่าความต้องการใช้ LPG ในปี 58 ลดลง 5.4% ขณะที่เฉพาะเดือนธ.ค.58 ความต้องการใช้ LPG ลดลง 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
นายอรรถพล กล่าวว่า การใช้ LPG ในส่วนของภาคครัวเรือนยังคงเติบโตได้ตามปกติในอัตรา 3-4% ต่อปี แต่ในส่วนของกลุ่มขนส่งหดตัวลงอย่างมาก โดยในปีที่ผ่านมาลดลงราว 10% และน่าจะยังคงหดตัวต่อเนื่อง ซึ่งการศึกษาเพื่อนำเข้า-ส่งออก LPG ของปตท.จะช่วยทำให้สามารถใช้สาธารณูปโภคทั้งท่าเรือ และคลัง LPG ได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น โดยปตท.ให้ความสนใจที่จะทำตลาดส่งออกในแถบอาเซียนเป็นหลัก ทั้งในกัมพูชา และลาว แต่ในส่วนการส่งออกไปลาวอาจจะต้องใช้การขนส่งทางรถยนต์เป็นหลัก
ทั้งนี้ เบื้องต้นเห็นว่าการทำตลาด LPG ในต่างประเทศจะสามารถดำเนินการได้แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถทำตลาดได้เพราะราคาในประเทศต่ำมากจากการควบคุมราคาขายปลีก ทำให้เกิดการลักลอบส่งออกไปขายชายแดนจำนวนมาก แต่หลังจากที่รัฐบาลปรับราคา LPG ให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงทำให้เป็นโอกาสที่จะสามารถทำตลาดได้ ซึ่งปตท.จะต้องเข้าไปศึกษาทั้งตลาด และการลงทุนในส่วนของโรงบรรจุก๊าซฯด้วยซึ่งหากได้เห็นอาจจะเป็นในช่วงปลายปีนี้
สำหรับตลาด LPG ในประเทศภายหลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะให้ธุรกิจ LPG การแข่งขันที่เสรีมากขึ้น เพื่อนำไปสู่ต้นทุนจริงที่ชัดเจนมากกว่าปัจจุบัน โดยตามโรดแมพดังกล่าวจะเริ่มเปิดทางให้ผู้ค้ารายอื่นสามารถนำเข้านอกเหนือจากปตท. เพื่อให้มีการแข่งขันเสรีมากขึ้น และนำไปสู่การพิจารณาประมูลสิทธิ (Bidding) ในการนำเข้า ก่อนจะเป็นการค้าเสรีเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นการนำเข้าในราคาที่แข่งขันได้นั้น ปตท.ก็พร้อมที่จะแข่งขันกับรายอื่น โดยจะเน้นการดูแลการให้บริการที่ดี ความปลอดภัยเพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการใช้บริการของปตท
ปัจจุบันการใช้ LPG ที่ไม่นับรวมภาคปิโตรเคมี มีการใช้อยู่ในระดับ 3 แสนตัน/เดือน ซึ่งปตท.มีส่วนแบ่งตลาดราว 38% โดยมีโรงบรรจุก๊าซฯ 172 แห่ง และสถานีบริการ LPG อีก 275 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากนี้การปรับเพิ่มสถานีบริการ LPG ก็คงจะไม่มากเพราะมองว่าตลาด LPG ภาคขนส่งจะไม่เติบโต ขณะเดียวกันก็อาจจะปรับลดสถานีบริการ LPG ในบางแห่งที่ไม่สามารถแข่งขันได้ด้วย