(เพิ่มเติม) เซ็นทรัลกรุ๊ป ตั้งเป้าปี 59 รายได้รวม 3.37 แสนลบ.โต 18.9% รุกซื้อกิจการเพิ่มอาเซียน-CLMV-ไทย

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 2, 2016 16:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กลุ่มเซ็นทรัล ตั้งเป้าปี 59 เติบโต 18.9% หรือคิดเป็นยอดขายและรายได้รวม 337,040 ล้านบาท จาก 283,450 ล้านบาทในปี 58 พร้อมทั้งงบลงทุนในปีนี้ 3.9 หมื่นล้านบาทในการขยายธุรกิจ

สำหรับการลงทุนในประเทศ ธุรกิจศูนย์การค้าจะมีการเปิดศูนย์การค้าใหม่เพิ่มเติม โดยจะเปิดให้บริการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช มูลค่าลงทุน 3.5 พันล้านบาทในช่วงปลายเดือน ก.ค.59 และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา จะเปิดภายในปีนี้ ส่วนศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต เฟส 2 เปิดให้บริการปลายปี 60

ด้านธุรกิจโรงแรมในประเทศยังมีการเปิดโรงแรมใหม่อย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 5 แห่ง ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด โดยเฉพาะจะมีการเปิดตัวโรงแรมหรู 6 ดาว ปาร์ค ไฮแอท กรุงเทพ ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลแอมบาสซีในช่วงเดือน ต.ค.59

ขณะที่การขยายธุรกิจในต่างประเทศที่ปัจจุบันมีลงทุนในกว่า 17 ประเทศนั้น ปีนี้บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องมาที่ 24% ในปีนี้ จากปีก่อนอยู่ที่ 18% ของยอดขายรวม ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายยอดขาย 5.1 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 40% ของกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า จาก 30% ในปีก่อน และคาดว่ายอดขายจะเติบโตต่อเนื่องปีละ 20% จนกระทั่งแตะ 1 แสนล้านบาทในปี 63 ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลตั้งงบลงทุนช่วง 5 ปี (59-63) ประมาณ 10,400 ล้านบาทเพื่อรีโนเวทห้างสรรพสินค้าทุกแห่งในยุโรป

ส่วนธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศ ปีนี้มีโครงการลงทุนโรงแรม 4 ดาวที่มัลดีฟส์ เพิ่มอีก 2 แห่ง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 62 และโครงการลงทุนตั้งโรงแรม 4 ดาวที่ดูไบในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลจะลงทุนราว 2.5 พันล้านบาทภายใต้การร่วมทุน 40% กับพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อสร้างบีชฟรอนต์ รีสอร์ท ระดับ 4 ดาว ขนาด 500 ห้อง

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า การเติบโตของปีนี้ครึ่งหนึ่งมาจากธุรกิจต่างประเทศที่กลุ่มได้ออกไปลงทุนซื้อกิจการ โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าในยุโรป โดยบริษัทจะรับรู้ยอดขายห้างสรรพสินค้าในเยอรมนีเข้ามาเต็มที่ในปีนี้ ซึ่งทำยอดขายได้ดีมาก ส่วนการเติบโตอีกอีกครึ่งหนี่งมาจากกิจการในประเทศ หลังจากได้เปิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวสเกต บางใหญ่ และ เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสท์วิลล์เมื่อปีก่อน

"ธุรกิจในประเทศส่วนใหญ่มาจากห้างใหม่ที่เราลงทุน 3 หมื่นกว่าล้านบาทปีก่อนและปีนี้อีก 3.9 หมื่นล้าน รวมเป็น 7 หมื่นลานบาทที่ลงไปยอดขายก็น่าจะโต 10-20% ได้ ปีนี้ก็รับรู้เต็มที่ ซึ่งเป้าโต 18.9% ถือว่าสูงโดยเฉพาะในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและไทยแบบนี้ และเราก็รุกต่างประเทศด้วย จากที่มียอดขาย 2% ใน 5 ปีก่อน จะขึ้นมาเป็น 24% ปีนี้ ขณะที่พนักงานต่างประเทศมีถึง 1.4 หมื่นคน เป็นเวียดนาม 6 พันคน ยุโรป 6 พันคน"นายทศ กล่าว

สำหรับแผนการซื้อกิจการ (M&A) ในต่างประเทศจากนี้ไป กลุ่มเซ็นทรัลจะเน้นกิจการในภูมิภาคอาเซียนและกลุ่ม CLMV รวมทั้งไทยเป็นหลัก โดยขณะนี้ได้มีเปิดห้างสรรพสินค้าที่มาเลเซียแล้ว ส่วนห้างสรรพสินค้าในเวียดนามก็จะมีการขยายต่อไป ส่วนธุรกิจในยุโรปคงชะลอการเพิ่มเติมไว้ก่นอ เพราะกรีนกิจการที่มีอยู่ในขณะนี่ก็ถือว่าไปได้ดี ส่วนแผนลงทุนในจีนได้ยกเลิกไปแล้ว

นายทศ กล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศปีนี้ ช่วง 2 เดือนแรกกำลังซื้อทรงๆ ตัวถึงค่อนข้างนิ่ง ไม่ได้ตกลงแต่ก็ปรับขึ้นไม่มาก โดยมาตรการรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาในช่วงปลายปี 58 ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อสร้างความคึกคักให้กับตลาด เพราะทำให้การจับจ่ายใช้สอยเพิ่มทันที แต่มองว่าปีนี้ภาครัฐอาจจะมีมาตรการเพิ่มเติม เพื่อให้คนไทยใช้เงินในประเทศมากขึ้น เพราะที่ผ่านมายอดช็อปปิ้งในประเทศเติบโตแค่ 2% แต่ยอดช็อปปิ้งต่างประเทศเติบโตถึง 10% ถือว่าสูงมาก ส่วนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศยังมียยอดใช้จ่ายช้อปปิ้งไม่มาก โดยเติบโตแค่ 2% เทียบไม่ได้กับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เติบโตสูงมาก

อย่างไรก็ตาม มองว่ากลุ่ม CLMV เป็นเทรดเซนเตอร์สำคัญ และเป็นจุดขายที่ดี โดยเฉพาะประเทศที่มีชายแดนติดกับไทย ดังนั้น จากนี้ไปกลุ่มเซ็นทรัลจะพยายามเพิ่มสัดส่วนยอดขายต่างจังหวัด จากปัจจุบันอยู่ที่ 40% เป้าหมายในระยะยาวควรจะเพิ่มเป็น 50-60%

"ในอดีต กทม.เป็นศูนย์กลาง แต่ trend ในอนาคตจะเป็นเมืองท่องเที่ยว ทั้งพัทยา ภูเก็ต ระยอง เชียงใหม่ ขณะที่ในส่วนของเซ็นทรัลเราก็ทำอยู่แล้ว มาร์เก็ตติ้งต่างๆ อย่างโรงแรม Centara เป็นแบรนด์ไทยที่ภาคภูมิใจ ปีนี้ก็ได้เซ็นสัญญาก่อสร้างและบริหารเพิ่มรวม 30 แห่ง ก็จะเป็นช่องทางโชว์สินค้าไทย สปาไทย ที่จะเห็นมากขึ้นใน 2-3 ปีข้างหน้า"นายทศ กล่าว

สำหรับห้างสรรพสินค้าในเวียดนาม ปัจจุบันมียอดขายราว 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่บริษัทมีความสนใจจะเข้าประมูลซื้อกิจการบิ๊กซีในเวียดนาม หากสามารถซื้อสำเร็จก็จะทำให้ยอดขายก็จะเพิ่มเท่าตัว โดยปัจจุบันบิ๊กซีเวียดนามมูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท แต่หากซื้อไม่ได้ก็ไม่มีกระทบกับกิจการที่มีอยู่

นายทศ กล่าวถึงการขยายกิจการห้างสรรพสินค้าในปีนี้ว่า บริษัทจะเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช ปลายเดือน ก.ค.59 มูลค่าการลงทุน 3,500 ล้านบาท, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา (โคราช) ภายในปีนี้ และ เปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต เฟส 2 ประมาณปลายปี 60 พร้อมกันนั้น จะรีโนเวทศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ได้แก่ ศูนย์การค้า พัทยา เซ็นเตอร์, เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 3, เซ็นทรัล ชิดลม, เซน, เซ็นทรัลภูเก็ต, เซ็นทรัลบางนา, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า

ส่วนห้างสรรพสินค้าโรบินสันจะเกิดเพิ่มอีก 2 สาขา คือ โรบินสัน นครศรีธรรมราช 2 และ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ ลพบุรี รวมทั้งจะรีโนเวทสาขาโรบินสันหลายสาขา ได้แก่ พระราม 9, เชียงใหม่, ราชบุรี, ตรัง, จันทบุรี, สระบุรี, นครศรีธรรมราช 1 และ โฮจิมินห์ ซิตี้ ขณะที่ห้างซุปเปอร์สโตร์ คือ TOPs ที่ผ่านมาทำยอดขายได้ดี อยู่ในระหว่างวางแผนเปิดสาขาเพิ่มขึ้น

ด้านธุรกิจโรงแรม ต้นปี 59 ได้เปิดตัวคอนเวนชั่น คุ้มคำ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จ.เชียงใหม่ และเปิดตัวเซ็นทรา มาริส รีสอร์ท จอมเทียน ที่พัทยา ส่วนไตรมาส 2/59 เปิดตัวโรงแรมเซ็นทารา อเวนิว โฮเท็ล พัทยา, ไตรมาส 3/59 เปิดเซ็นทรา Phu Pano รีสอร์ท และไตรมาส 4/59 เปิดโรงแรมภายใต้ โคซี่ COSI ห้องพักราคาประหยัด 6 โครงการในไทย (สมุย เชียงใหม่ พัทยา)

ขณะที่มีแผนเปิดโรงแรมปาร์ค ไฮแอท กรุงเทพ สุดยอดโรงแรมระดับ 6 ดาว ซึ่งมีเพียง 36 สาขาทั่วโลกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ เป็นแห่งแรกในไทย ช่วงเดือนต.ค.59

กลุ่มเซ็นทรัลเตรียมเปิดร้านค้าต่อเนื่อง ประกอบด้วย กลุ่มเซ็นทรัลเรสเตอรองส์ กรุ๊ป,กลุ่มเซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป,เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์,ท็อปส์ มาร์เก็ต,ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์,ท็อปส์ เดลี่,แฟมิลี่มาร์ท,โคโมโนยะ มัทสึโมโตะ,คิโยชิ ซูเปอร์สปอร์ต,ออฟฟิศเมท,บีทูเอส,เพาเวอร์บาย,ไทวัสดุ

นายทศ กล่าวถึงธุรกิจในต่างประเทศว่า ขณะนี้บริษัทมีการลงทุนใน 8 ประเทศทางตะวันตก ประกอบด้วย อิตาลี เยอรมัน เดนมาร์ก ตุรกี การ์ต้า โอมาน เอธิโอเปีย คิวบา และ 9 ประเทศทางฝั่งตะวันออก ประกอบด้วย ไทย เวียดนาม ลาว มาเลเซีน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จีน ศรีลังกา มัลดีฟล์ โดยสัดส่วนรายได้ของต่างประเทศของกลุ่มได้ขยายตัวเรื่อยมา นับตั้งแต่เข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้า ลา รีนาเซนเตในปี 54

ทั้งนี้ สัดส่วนยอดขายของธุรกิจในต่างประเทศเติบโตจาก 5% ในปี 54 มาเป็น 18% ในปี 58 และคาดว่าในปี 59 สัดส่วนยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 24% ของยอดขายรวมของกลุ่มเซ็นทรัล ขณะที่จำนวนพนักงานในไทย 62,701 คน ต่างประเทศ 14,712 คน โดยในปี 58 ยอดขายในยุโรปอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้าทั้งในไทยและต่างประเทศ และในปีนี้คาดว่าจะทำยอดขาย 51,000 ล้านบาท และคาดว่าในปีต่อๆไปยอดขายจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% ทำให้ปี 63 ยอดขายในยุโรปแตะ 1 แสนล้านบาท

สำหรับห้างสรรพสินค้าในยุโรป เราต้องการสร้างเซกเมนต์ที่ชัดเจนของกลุ่มห้างสรรพสินค้าระดับ Luxury โดยสร้างให้เป็น Luxury Destination ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือน ซึ้งประกอบด้วย 7 ห้างสรรพสินค้า แบ่งเป็น 5 ห้างสรรพสินค้าในยุโรป ได้แก่ ลา รีนาเซนเต อิลลุม คาเดเว อัลสแตร์เฮ้าส์ โอเบอร์โพลลิงเกอร์ และอีก 2 ห้างสรรพสินค้าในไทย ได้แก่ เซ็นทรัล ชิดลม และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่

ขณะเดียวกันธุรกิจโรงแรม ภายใต้แบรนด์เซ็นทารา โฮเท็ล แอนด์ รีสอร์ท มีโรงแรมและรีสอร์ทที่บริหารให้รวม 70 แห่ง ใน 11 ประเทศ เปิดทำการ 41 โรงแรม ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย 35 แห่ง เวียดนาม 2 แห่ง มัลดีฟส์ 2 แห่ง ศรีลังกา 1 แห่ง และอินโดนีเซีย 1 แห่ง ซึ่งขณะนี้ได้ทำการเซ็นสัญญาบริหารเพิ่มอีก 29 โรงแรม ทั้งนี้ โรงแรมเซ็นทารา โอมาน,กาต้าร์ และตุรกี จะเปิดบริการในไตรมาส 3/59

โรงแรมในต่างประเทศที่ลงทุนเอง ขณะนี้มีเปิดแล้ว 2 โรงแรมที่มัลดีฟส์ เงินลงทุนรวม 3,517 ล้านบาท และมีโครงการลงทุนโรงแรม 4 ดาว ที่มัลดีฟส์เพิ่มอีก 2 โรงแรม คาดจะเปิดให้บริการในปี 62 โครงการลงทุนโรงแรมในประเทศดูไบ,สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ โรงแรมที่ดูไบคาดจะลงทุน 2.5 พันล้านบาท เป็นการร่วมทุน 40% เพื่อสร้างบีชฟรอนด์ ระดับ 4 ดาว มีห้องพัก 550 ห้อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ