EASTW เขื่อปีนี้กำไรโตตามรายได้-ปริมาณขายน้ำ,มั่นใจตอ.ไม่แห้ง ทุ่ม 2 พันลบ.วางท่อเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 16, 2016 13:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโสกุล เชื้อภักดี ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) คาดว่า กำไรสุทธิในปีนี้จะเติบโตตามรายได้รวมที่ตั้งเป้าเติบโต 5% จากปี 58 ที่มีรายได้รวม 4,658 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีปริมาณขายน้ำดิบที่ 310 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 297 ล้าน ลบ.ม.โดยเฉพาะความต้องการน้ำของการประปาภูมิภาค (กปน.) สูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากแหล่งน้ำทางเลือกมีปริมาณน้ำลดลง
"ในปีนี้ กปน.สั่งสำรองน้ำเข้ามา 7 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีราว 2 ล้าน ลบ.ม.เพิ่มขึ้นมาถึง 5 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งบริษัทได้จัดเตรียมน้ำจากแหล่งบ่อดินภาคเอกชนในพื้นที่ไว้รองรับ ที่มีการเซ็นสัญญาแล้ว 4-4.5 ล้าน ลบ.ม.ที่เหลืออีก 2 ล้าน ลบ.ม.ก็มั่นใจว่าจะจัดหาให้ได้"นายโสกุล กล่าว

ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากการขายน้ำดิบ 66% และน้ำประปา 26% โดยในปี 59 คาดว่าสัดส่วนรายได้น้ำประปาจะเพิ่มขึ้นตามความต้องการที่สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากราคาขายน้ำประปาสูงกว่าน้ำดิบ ส่วนความต้องการน้ำดิบปีนี้อาจเติบโตได้เล็กน้อย เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่กลับมาขยายตัวเต็มที่

"ปีนี้รายได้น้ำประปาจะเพิ่มขึ้น ส่วนน้ำดิบก็ growth แต่ไม่สูงมาก ตามสภาพเศรษฐกิจ"นายโสกุล กล่าว

นายโสกุล กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าในปีนี้จะสามารถจัดหาน้ำได้เพียงพอสำหรับการให้บริการในภาคตะวันออก และหวังว่าจะไม่ขาดแคลนน้ำ โดยในโซน 1 จ.ระยองมีอ่างเก็บน้ำหลัก คือ หนองปลาไหล ดอกกราย และคลองใหญ่ ซึ่งมีปริมาณน้ำ 193 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็น 66% ของความจุอ่าง เพียงพอใช้สำหรับ 6-7 เดือนหากไม่มีฝนตกมาเพิ่มเลยก็ยังอยู่ได้ถึงเดือน ก.ย.-ต.ค.59

ส่วนโซน 2 จ.ชลบุรี และ จ.ฉะเชิงเทรา ในชลบุรีอ่างเก็บน้ำหนองค้อ-บางพระ ปริมาณน้ำ 35-37 ล้าน ลบ.ม.อาจน้อยหรือต่ำเกณฑ์ ซึ่งบริษัทได้ดึงน้ำจากอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลและหนองค้อไปรวมก็มั่นใจว่าจะไม่ขาดแคลนเช่นกัน

ขณะที่อ่างเก็บน้ำประแสร์ มีปริมาณน้ำ 195 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 66% ของความจุอ่าง ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี

นายโสกุล กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำขณะนี้โดยรวมพื้นที่ภาคตะวันออกยังไม่น่าเป็นห่วง ยกเว้นในพื้นที่ จ.ชลบุรีและฉะเชิงเทราที่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งบริษัทมีแผนสำรองรับมือภัยแล้งด้วยการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์มายังอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ปริมาณ 87 ล้าน ลบ.ม.เพื่อส่งจ่ายไปยังผู้ใช้น้ำภาคอุตสาหกรรมและอุปโภคบริโภค

รวมถึงการเร่งรัดโครงการวางท่อส่งน้ำดิบหนองปลาไหล-หนองค้อ เส้นที่ 2 เพิ่มเพิ่มศักยภาพในการจ่ายน้ำจากอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลให้กับผู้ใช้น้ำในพื้นที่ปลวกแดง-บ่อวิน ให้สามารถพร้อมส่งจ่ายน้ำได้ภายในเดือน พ.ค.-เม.ย 59

ส่วน จ.ฉะเชิงเทรา มีปริมาณความต้องการใช้น้ำช่วงฤดูแล้งประมาณ 7 ล้าน ลบ.ม.จากการเกิดภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาป่าสัก ทำให้บริษัทต้องช่วยส่งน้ำไปให้กับพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มเติมเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เตรียมแผนการจัดหาแหล่งน้ำสำรองจากบ่อดินเอกชนเพิ่มเติมเพื่อเตรียมรองรับไว้แล้ว 2.5 ล้าน ลบ.ม.และคาดว่าจะหาเพิ่มได้อีก 4.5 ล้าน ลบ.ม.จะช่วยให้พื้นที่ฉะเชิงเทรามีแหล่งน้ำสำรองในฤดูแล้งอย่างเพียงพอ

นายโสกุล เปิดเผยอีกว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโครงการต่อเนื่องจากปี 58 ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำทับมา 700 ล้านบาท และโครงการวางท่อส่งน้ำประแสร์-หนองปลาไหล เส้นที่ 2 ลงทุนราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการทยอยใช้เงินลงทุนมาตั้งแต่ปีก่อน แต่ปีนี้จะจ่ายเงินก้อนใหญ่

นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมแผนงาน 5 ปีโดยอยู่ระหว่างศึกษาโครงการวางท่อส่งน้ำเพิ่มจากคลองหลวงไปยังพื้นที่บ่อวิน จ.ชลบุรี และ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง (บริเวณถนนสาย 331) คาดว่าจะสรุปได้ในปีนี้ ซึ่งขณะนี้ที่ปรึกษาโครงการอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับโรงงานอุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นในนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ด้วย เนื่องจากมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว

"แผนงานใน 5 ปี เตรียมเปิดพื้นที่ใหม่เพื่อรองรับอุตสาหกรรมในพื้นที่ชลบุรี-ระยอง เป็นโครงการวางท่อส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองหลวง ซึ่งอยู่ระหว่างประสานกับกรมชลประทานว่าจะให้ผันน้ำได้ในปริมาณเท่าไร ตอนนี้ที่ปรึกษาโครงการกำลังศึกษาความเป็นได้อยู่ คาดชัดเจนปีนี้"นายโสกุล กล่าว

สำหรับการปรับขึ้นราคาค่าน้ำนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพราะยอมรับว่าต้นทุนของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากการลงทุนหลายโครงการเพื่อสร้างเสถียรภาพของระบบจ่ายน้ำ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอเสนอเพื่อขออนุญาต

ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนการนำ บริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทิลิตี้ (UU) เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) นั้น บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้วเมื่อ 2 เดือนก่อนหน้า ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เข้ามาตรวจเยี่ยมบริษัทแล้ว คาดว่าจะสามารถนำหุ้นเข้าซื้อขายได้ทันภายในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ