UPA ศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าอีกแห่งในเมียนมาร์ หลังได้เซ็น PPA โรงไฟฟ้าเฟส 2

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 29, 2016 10:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอุปกิต ปาจรียางกูร กรรมการ บมจ. ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในเอเชียไม่ว่าจะเป็นที่ ลาว อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ส่วนที่เมียนมาร์บริษัทกำลังทำการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าอีกแห่งและอยู่ระหว่างการเจรจากับทางหน่วยงานของเมียนมาร์ ขณะที่ล่าสุดเมื่อวานนี้บริษัทได้เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ขนาด 200 เมกะวัตต์ (MW) กับกระทรวงพลังงานสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์แล้ว
"ผมและทีมผู้บริหารมีความตั้งใจและทุ่มเทอย่างหนักที่จะมาพลิกฟื้นธุรกิจของบริษัท ทำให้การดำเนินงานของบริษัท UPA มีผลประกอบการที่ดีอย่างยั่งยืน มีโครงการลงทุนที่มีศักยภาพ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของบริษัท UPA อย่างมั่นคงในอนาคตเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น จนทำให้สามารถเซ็นสัญญา PPA สำเร็จ"นายอุปกิต กล่าว

ทั้งนี้ UPA จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติ cogeneration ขนาด 200 MW ตั้งอยู่ที่เมืองกันบก จังหวัดทวาย รัฐทะนินทายี โดยโครงการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเมียนมาร์ให้ก๊าซธรรมชาติ ที่จะนำมาผลิตไฟฟ้าทั้งหมดโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และบริษัทได้รับค่าตอบแทนจากการขายไฟฟ้า 1.18 บาท/หน่วย ซึ่งถือว่าเป็นราคาสูงที่สุด เท่าที่รัฐบาลเมียนมาร์เคยให้ โดยมีระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี มูลค่าการลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัท

หลังจากเซ็น PPA แล้วทางบริษัทก็จะเดินหน้าหาแหล่งทุนสนับสนุนเพื่อจะได้ก่อสร้างและดำเนินการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ได้ภายในปี 63 ตามแผนงานต่อไป

นอกจากนี้ โครงการนี้ยังเป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรกของเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (Dawei Special Economic Zone: DSEZ) ซึ่งทวายเป็นประตูสู่ยุโรป ตะวันออกกลางและอินเดียของอาเซียนเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายจึงเป็นแหล่งการลงทุนใหม่ในกลุ่มอาเซียนที่มีศักยภาพสูง ทำให้ในอนาคตอันใกล้ ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มมากขึ้นตามการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ทางรัฐบาลเมียนมาร์จึงได้เตรียมแผนงานเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 500 MW รองรับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจเมียนมาร์ไว้แล้ว ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น UPA ก็สนใจที่จะยื่นขอทำโครงการต่อเนื่องนี้ด้วย

นายอุปกิต กล่าวว่า การลงนาม PPA ในครั้งนี้จึงมีความสำคัญมาก เพราะนอกจากจะส่งผลดีต่อบริษัท UPA แล้ว ยังถือเป็นความสำเร็จของประเทศไทยที่ได้ปักธงการลงทุนในทวายได้สำเร็จเป็นชาติแรก ในขณะที่นักลงทุนจากประเทศต่างๆได้พยายามแข่งขันกันเข้าไปรับสัมปทานจากรัฐบาลเมียนมาร์ ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนชาวไทยและประเทศไทยได้ต่อยอดธุรกิจการลงทุนในเมียนมาร์ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ UPA ยังมีธุรกิจรองคือบริษัทอินฟอร์เมติก จำกัด ซึ่งทำธุรกิจสื่อสารและเทคโนโลยีโดยเป็นเจ้าของสินค้าเอง (Proprietary) ธุรกิจสื่อสารบนแพลตฟอร์มของอินเทอร์เน็ต ซึ่ง 2 เดือนแรกของปีนี้ได้สามารถทำรายได้แล้วกว่า 60 ล้านบาท และกำลังเข้ายื่นประกวดราคากับหน่วยงานของรัฐและเอกชนอีกหลายโครงการ

อนึ่ง สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าขนาด 200 MW ที่ได้เซ็นสัญญา PPA เมื่อวานนี้นั้น นับเป็นโรงไฟฟ้าเฟสที่ 2 ของ UPA หลังจากทีก่อนหน้านี้บริษัทมีโรงไฟฟ้าเฟสแรก ขนาด 6-20 เมกะวัตต์ ที่ได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้วเมื่อ 17 มิ.ย.58


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ