ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,392.85 จุด เพิ่มขึ้น 3.84 จุด (+0.28%) มูลค่าการซื้อขาย 35,656.37 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,394.78 จุด และดัชนีปรับลงทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,386.29 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 536 หลักทรัพย์ ลดลง 479 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 405 หลักทรัพย์
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงท้ายตลาดได้รับแรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากที่ได้มีการปรับฐานไปพอควร โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มแบงก์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นแรงซื้อจาก Local Fund และ Prop Trade หลังจากที่ได้ขายออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้
ส่วนการลงทุนจากต่างชาติเชื่อว่ายังรอดูถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ก่อน ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน แต่จะอิงไปในแดนลบมากกว่า
สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯที่ออกมาในช่วงบ่ายนี้ เป็นมาตรการลดหย่อนภาษีกินช่วงสงกรานต์วันที่ 9-17 เม.ย.,ต่ออายุกระตุ้นท่องเที่ยวอีก 1 ปี มองว่าไม่น่าจะส่งผลต่อตลาดฯมากนัก พร้อมมองว่าตลาดฯช่วงนี้คงจะสวิงไป-สวิงมา เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยอะไรชัดเจน
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (30 มี.ค.) นายธีรวุฒิ กล่าวว่า ถ้าคืนนี้ถ้อยแถลงของประธานเฟดไม่มีอะไรมาก และไม่ได้มีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เชื่อว่าตลาดฯน่าจะรีบาวน์ขึ้นไป แต่ถ้ามีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาดี ก็ทำให้มีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ซึ่งตลาดฯก็คงจะปรับตัวลง โดยมองว่าตลาดฯมีแนวโน้มที่จะปรับฐานสักรอบ พร้อมให้แนวรับ 1,385-1,370 จุด ส่วนแนวต้าน 1,395 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,159.68 ล้านบาท ปิดที่ 169.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,728.86 ล้านบาท ปิดที่ 186.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,585.33 ล้านบาท ปิดที่ 137.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,547.61 ล้านบาท ปิดที่ 44.00 บาท ลดลง 0.75 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,536.60 ล้านบาท ปิดที่ 393.00 บาท ลดลง 4.00 บาท