ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดร่วงแรง 26.68 จุด เจอแรงขายหนักจากกลุ่มแบงก์-พลังงาน-สื่อสาร

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 5, 2016 17:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,373.59 จุด ลดลง 26.68 จุด (-1.91%) มูลค่าการซื้อขาย 52,966.26 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,390.11 จุด และดัชนีปรับลงทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,373.34 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 357 หลักทรัพย์ ลดลง 861 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 227 หลักทรัพย์

นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรง รับผลจาก 3 กลุ่มหลัก ทั้งหุ้นในกลุ่มแบงก์, กลุ่มสื่อสาร และกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นในกลุ่มแบงก์มีปัจจัยลบจากที่หลายแบงก์ทยอยประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง ทำให้ไปกดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิลง ส่วนกลุ่มสื่อสาร ก็มีประเด็นเรื่องการประมูล 4G คลื่น 900 MHz ที่ทาง ADVANC เสนอซื้อ แต่ไม่ว่าใครจะได้ไปมองว่าจะต้องหาเงินทุนมาจำนวนมาก และมีโอกาสที่จะเพิ่มทุนได้สูง

ด้านกลุ่มพลังงาน ก็เจอปัจจัยจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ซึ่งก็มีการมองกันว่ารอบนี้จะลงไปแกว่งแถว 30-35 เหรียญฯ/บาร์เรล โดยการประชุมระหว่างกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC ในวันที่ 17 เม.ย.นี้จะต้องรอดูว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เนื่องจากทางซาอุดิอาระเบียว่า ถ้าอิหร่านไม่เข้าร่วมประชุม ทางซาอุฯก็อาจจะไม่เข้าเหมือนกัน พร้อมให้ติดตามสต็อคน้ำมันของสหรัฐฯที่จะประกาศในคืนวันพรุ่งนี้ ถ้าออกมาเพิ่มขึ้นก็อาจทำให้ราคาน้ำมันหลุด 35 เหรียญฯ/บาร์เรลได้ และการปรับตัวลงของราคาน้ำมันก็มีโอกาสที่จะลงไปได้เร็วด้วย

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ รับผลลบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง นอกจากนี้ หากมองที่ตลาดสหรัฐฯ ได้มีการสำรวจนักกลยุทธ์จากหลายแห่งได้ผลออกมาว่า ดาวโจนส์มี upside ได้อีกแค่ 2% เท่านั้น ดังนั้นเมื่อดาวโจนส์ปรับขึ้นไปก็จะเจอแรงขายออกมา ทั้งนี้ที่ดาวโจนส์ไปไม่ได้ต้องดูที่กำไรไตรมาส 1/59 ซึ่งมีคาดการณ์กำไร EPS ของบริษัทฯในสหรัฐฯจะติดลบ 7% จากไตรมาส 4/58 ที่ติดลบ 2.9% ทั้งนี้มาจากเงินดอลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าทำให้ไปกดดันกำไรของบริษัท โดยกลุ่มแบงก์ของสหรัฐฯมีการคาดการณ์กันว่าในไตรมาส 1/59 กำไรจะหดตัว

พรุ่งนี้ (6 เม.ย.) ตลาดหุ้นไทยปิดทำการเนื่องในวันจักรี

แนวโน้มการลงทุนในวันพฤหัสบดีนี้ (7 เม.ย.) นายเกียรติก้อง กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้ต่อ พร้อมให้แนวรับ 1,350-1,360 จุด หากหลุดแนว 1,350 จุด ดัชนีฯมีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้เร็วมาก ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,380 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 4,165.78 ล้านบาท ปิดที่ 163.00 บาท ลดลง 12.00 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,257.98 ล้านบาท ปิดที่ 131.00 บาท ลดลง 7.50 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,093.78 ล้านบาท ปิดที่ 167.50 บาท ลดลง 10.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,022.36 ล้านบาท ปิดที่ 160.00 บาท ลดลง 8.00 บาท

DTAC มูลค่าการซื้อขาย 2,020.86 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท ลดลง 3.25 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ