(เพิ่มเติม) ITD มั่นใจปีนี้พลิกเป็นกำไรหลังรายได้พุ่ง,ลุ้นงานเมกะโปรเจ็คต์ภาครัฐราว 2 แสนลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 21, 2016 14:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) มั่นใจปีนี้พลิกมีกำไรเนื่องจากงานใหม่มีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูงขึ้นเป็นกว่า 10% จากมาร์จิ้นงานเก่าอยู่ที่ 5-7% พร้อมทั้งคาดว่าปีนี้จะทำรายได้เพิ่มเป็นกว่า 6 หมื่นล้านบาท จากปีก่อน 4.9 หมื่นล้านบาท ก่อนจะเติบโตก้าวกระโดดเป็น 1.2-1.3 แสนล้านบาทในปี 60

ขณะนี้บริษัทมีงานในมือ (backlog) แล้วราว 2 แสนล้านบาท และมีงานรอเซ็นสัญญาอีก 1 แสนล้านบาท ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นโครงการท่าเรือน้ำลึกและรถไฟในประเทศโมซัมบิกมูลค่ากว่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐที่คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ภายในปีนี้ รวมทั้งคาดว่าจะได้งานโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 25-30% ของมูลค่างานที่เปิดประมูล ส่วนโครงการพัฒนาเหตุอุตสาหกรรมทวายนั้นขณะนี้รอการอนุมัติจากรัฐบาลใหม่พม่า ซึ่งคาดว่าจะจะเริ่มพัฒนาโครงการเฟสแรกได้ราวเดือน มิ.ย.59

นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการ ITD คาดว่า ในปี 59 บริษัทจะมีงานใหม่เข้ามาไม่น้อยกว่า 2 แสนล้านบาท หรือมีสัดส่วนได้รับงาน 25-30% ของมูลค่าโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่เปิดประมูลในปีนี้ ได้แก่ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี มูลค่า 5.6 หมื่นล้านบาท และ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง มูลค่า 5.4 แสนล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี มูลค่า 9.25 หมื่นล้านบาท รวมทั้งรถไฟทางคู่ 4 เส้นทาง มูลค่ารวมกว่า 8 หมื่นล้านบาท

สำหรัลโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองที่ภาครัฐเปิดให้เอกชนลงทุนและให้เดินรถแบบโมโนเรลนั้น นายเปรมชัย กล่าวว่า ITD ได้เจรจาดึงบริษัท แทนเดรฟ จากฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้เดินรถไฟฟ้า และได้มีการเดินรถไฟฟ้าในฮ่องกง ออสเตรเลีย มุมไบ เข้ามาร่วมมือกันในการเข้าร่วมประมูล 2 โครงการดังกล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังมีงานที่รอเซ็นสัญญาประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) จำนวนราว 2 แสนล้านบาท

นายเปรมชัย คาดว่า รายได้ในปี 59 จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอีกประมาณ 2 หมื่นล้านบาทหรือ เพิ่มเป็นกว่า 6 หมื่นล้านบาท จากปีที่แล้วมีรายได้ 4.9 หมื่นล้านบาท เป็นการรับรู้จากงานในมือ แต่ในปี 60 รายได้จะกระโดดขึ้นมาเป็น 1.2 -1.3 แสนล้านบาท เมื่อบริษัทได้งานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐเข้ามาในปีนี้

ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทจะพลิกมามีกำไรจากปีก่อนมีผลขาดทุน 361.7 ล้านบาท เพราะงานใหม่ที่ทยอยเข้ามามีอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ดีขึ้นไม่น้อยกว่า 10% เพราะเป็นงานใหญ่ที่มีคู่แข่งน้อยราย ส่วนงานเก่ามีมาร์จิ้นต่ำประมาณ 5-7%

"ปีนี้รายได้เพิ่มมาอีกราวๆ 2 หมื่นล้านบาท แต่ปี 60 จะเยอะขึ้นมากเพราะมมีงานในมือมากขึ้น หากมีงานในมือเพิ่มเป็น 4 แสนล้านในปีนี้ ก็จะรับรู้ 1 ใน 3 ในปีหน้า"นายเปรมชัย กล่าว

นายเปรมชัย กล่าวว่า บริษัทคาดว่าภายในปีนี้จะได้เซ็นสัญญาในโครงการสัมปทานก่อสร้างทางรถไฟและท่าเรือน้ำลึกในสาธารณรัฐโมซัมบิก มูลค่าโครงการ 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดย ITD มีส่วนเป็นเจ้าของโครงการในสัดส่วน 30% ซึ่งจะได้ค่าบริหารจัดการโครงการ 600 ล้านเหรียญสหรัฐ และจัดหาผู้รับเหมาเข้ามา โดยโครงการนี้มีระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี

ส่วนความคืบหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมทวายในระยะแรก (Initial Phase) ในเมียนมาร์ ที่ ITD ได้ลงนามสัญญาสัมปทานจำนวน 27 ตร.กม. คิดเป็นประมาณ 18,000 ไร่เมื่อวันที่ 8 ส.ค.58 และขณะนี้รอรัฐบาลเมียนมาร์ชุดใหม่ออกคำสั่งให้เริ่มงานในสิ้นเดือน มิ.ย. 59 ซึ่งเลื่อนจากเดิมที่กำหนดไว้เดือนก.พ. 59 เนื่องจากรัฐบาลเดิมดำเนินการไม่ทัน หลังจากนั้นบริษัทจะเซ็นสัญญาเช่าที่ดินกับรัฐบาลเมียนมาร์ ระยะเวลา 75 ปี (50+25 ปี)

นายเปรมชัย กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่า ITD จะไม่ได้งานโครงการนิคมอุตสาหกรรมทวายในเมียนมาร์ พร้อมยืนยันว่าบริษัทยังคงได้ดำเนินงานเพราะได้มีการเซ็นสัญญาได้รับงานนี้แล้ว โดยขณะนี้มีผู้แสดงความสนใจกว่า 80 ราย และมีผู้เข้ามาจองพื้นที่แล้วกว่า 10 รายซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายเล็ก รายละประมาณ 10 ไร่

ส่วนการชดเชยเงินลงทุนที่ ITD ได้ลงทุนในโครงการนี้กว่า 1,500 ล้านบาท ทางรัฐบาลเมียนมาร์ได้ให้ทางเลือก(option) ให้ ITD จะรับเงิน หรือ ได้รับพื้นที่พัฒนาในโครงการทวายที่จะได้เพิ่มอีก 8 ตร.กม. ซึ่ง option นี้ให้เวลาตัดสินใจภายใน 8 ปี นับจากวันที่เซ็นสัญญาเมื่อเดือน ส.ค. 58

ขณะที่บริษัทได้นำคณะพันธมิตรจีนเสนอลงทุนการสร้างถนนจากบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรีไปโครงการนิคมอุตสาหกรรมทวายเป็น 4 เลน หรือมอเตอร์เวย์จากแผนเดิมสร้างถนน 2 เลน ซึ่งหากทำได้จะดีกับทุกฝ่ายที่มีการขนส่งสินค้าและเดินทางไปมาสะดวกขึ้น ระหว่างนี้รอรัฐบาลเมียนมาร์ชุดใหม่ตัดสินใจ

นายเปรมชัย ยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเหมืองโปแตช จ.อุดรธานีว่า จะมีการทำประชาพิจารณ์ครั้งสุดท้ายในเดือนนี้ และคาดว่าจะได้ใบประทานบัตรในเดือน มิ.ย.59 ขณะที่การนำหุ้นเหมืองโปแตชออกขายก็ยังไม่ได้ดำเนินการ เพราะผู้ถือหุ้น ITD ไม่ต้องการให้ขายหุ้นออกไปจากก่อนหน้าจะนำออกขายประมาณ 10-20% เพื่อนำเงินมาเพิ่มสภาพคล่อง จึงยังไม่ได้ดำเนินการขายออกมา โดย ITD ถือหุ้นอยู่ 90% อีก 10% ถือโดยกระทรวงการคลัง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ