กลุ่มแบงก์ร่วงเกือบยกแผงหลังกำไร Q1/59 หดตัวจากงวดปีก่อน-แบงก์ใหญ่ลดดบ.เงินกู้ หวั่นกดดันกำไรปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 22, 2016 11:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีกลุ่มแบงก์ติดลบ 1.49% มาอยู่ที่ 460.79 จุด ลดลง 6.98 จุด โดยเมื่อเวลา 10.47 น. หุ้นในกลุ่มแบงก์ร่วงลงเกือบยกแผง นำโดย 5 แบงก์ คือ หุ้น SCB ลบ 2.22% มาอยู่ที่ 132 บาท ลดลง 3 บาท มูลค่าซื้อขาย 453.67 ล้านบาท

หุ้น TCAP ลบ 2.05% มาอยู่ที่ 35.75 บาท ลดลง 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 56.62 ล้านบาท

หุ้น KBANK ลบ 1.81% มาอยู่ที่ 163.00 บาท ลดลง 3.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 581.46 ล้านบาท

หุ้น BBL ลบ 1.80% มาอยู่ที่ 163.50 บาท ลดลง 3.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 336.34 ล้านบาท

หุ้น KTB ลบ 1.69% มาอยู่ที่ 17.50 บาท ลดลง 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 657.58 ล้านบาท

ทั้งนี้ หุ้นตัวอื่นในกลุ่มแบงก์ที่ไม่ติดลบ ราคาหุ้นก็ไม่เปลี่ยนแปลง

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า กำไรสุทธิของกลุ่มแบงก์ในไตรมาส 1/59 เพิ่มขึ้น 9.2% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 9.6% จากงวดปีก่อน แม้จะใกล้เคียงคาด แต่การเพิ่มขึ้นของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และการตั้งสำรองยังไม่น่าสบายใจนัก เช้านี้ KBANK และ BBL ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MRR 0.25% ขณะที่ KBANK จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยMOR ลง 0.25% โดยให้มีผลวันที่ 25 เม.ย.นี้ ก็คาดว่าแบงก์อื่นจะประกาศตามมาด้วย ซึ่งจะกดดันรายได้และกำไรปีนี้มากขึ้น ยังแนะนำชะลอการลงทุนในแบงก์ใหญ่ ยกเว้น KBANK ที่ดูดีสุด และยังชอบ TISCO และ TCAP เช่นเดิม

ด้าน BAY เต็มมูลค่าแล้ว โดยกำไรในไตรมาส 1/59 ใกล้เคียงคาด โดยเพิ่มขึ้น 0.8% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น19.1% จากงวดปีก่อน แม้ตั้งสำรองสูงกว่าคาดแต่ชดเชยได้จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ดีกว่าคาด หากตัดสำรองออก PPOP ดีกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 5.7% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 10.6% จากงวดปีก่อน จาก NIM ดีขึ้นเป็น 3.79% จาก 3.75% ในไตรมาสก่อน แม้ NPL เพิ่มเป็น 2.28% แต่ Coverage ratio ยังแกร่ง 143% ซึ่งคาดกำไรปีนี้ จะเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบปีต่อปี ชะลอตัวเป็นปีแรกหลังจากขยายตัวปีละ 22% มาตั้งแต่ปี 55-58 ราคาหุ้นปัจจุบันเกินมูลค่าที่ 32 บาทแล้ว ลดคำแนะนำเป็น"ขาย"จาก"ถือ"

ส่วน KTB คุณภาพหนี้แย่ลง แม้กำไรไตรมาส 1/59 จะดีกว่าทั้งฟินันเซียฯและตลาดคาดคือ เพิ่มขึ้น 11.4% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 4.9% จากงวดปีก่อน เพราะคุมรายจ่ายได้ดี แต่สิ่งที่น่าห่วงคือ NPL ที่พุ่งขึ้นเร็วเป็น 3.7% จาก 3.2% ในไตรมาส 4/58 ทำให้การตั้งสำรองในไตรมาสนี้สูงกว่าคาด ทั้งสำรองปกติและสำรองส่วนเกิน (extra reserve) ส่วนสินเชื่อติดลบ1.8% นับจากต้นปี ลดลงมากที่สุดในกลุ่มโดยลดลงจากทุกกลุ่มลูกค้า โดยยังคงคาดกำไรปีนี้ เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน คงราคาพื้นฐาน 19.50 บาท แต่ลดคำแนะนำจาก"ซื้อ"เป็น"ถือ"รับปันผล หุ้นละ 0.76 บาท Yield 4.3% XD 10 พ.ค. นี้


แท็ก KBANK   SCB  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ