(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวในกรอบ รอดูสัญญาณจากการประชุมเฟด-BOJ/ติดตามงบฯ Q1/59

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 26, 2016 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งในกรอบ เพื่อรอดูสัญญาณจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งในส่วนของ BOJ อาจจะมีปัจจัยพิเศษเข้ามา อย่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะญี่ปุ่นมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวทำให้ไปฉุด GDP ของญี่ปุ่นลงเหมือนกัน

ส่วนบ้านเราก็ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 1/59 ของกลุ่มอื่น ๆ และให้ติดตามทิศทางราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดด้วย เพราะมีผลต่อตลาดฯเหมือนกัน โดยวานนี้ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงแต่ถือว่ายังยืนในระดับ 40 กว่าเหรียญฯ ซึ่งก็ยังถือว่าสูงอยู่ ทำให้หุ้นในกลุ่มน้ำมันไม่ได้ปรับตัวลงมาก

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมมองว่าดัชนีฯไม่น่าจะพ้น High เดิมที่ 1,420 จุด ซึ่งก็เป็นแนวต้านวันนี้ด้วย ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,400 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 เม.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,977.24 จุด ลดลง 26.51 จุด (-0.15%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,895.79 จุด ลดลง 10.44 จุด (-0.21%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,087.79 จุด ลดลง 3.79 จุด (-0.18%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 80.74 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.95 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 75.58 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 3.91 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.29 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 11.90 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.61 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 เม.ย.59) 1,408.71 จุด ลดลง 2.10 จุด (-0.15%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 0.23 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 เม.ย.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 เม.ย.59) ปิดที่ 42.64 ดอลลาร์/
บาร์เรล ลดลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 2.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 เม.ย.59) ที่ 5.16 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.11/12 ทรงตัว จับตาทิศทางดอกเบี้ยเฟด-มาตรการกระตุ้นศก.BOJ
  • ส่งออก มี.ค.เพิ่มขึ้น 1.3% พลิกกลับมาเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน "สุวิทย์" ประเมินเป็นสัญญาณดีต่อเศรษฐกิจไทย หลังเครื่องจักรอีก 2 ตัว ทั้งการลงทุนและท่องเที่ยว เดินเครื่องไปแล้ว ยืนเป้าทั้งปีที่ 5% ไว้เป็นแรงทำงาน
  • ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะดำเนินมาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 27-28 เม.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงและอาจร่วงลงไปแตะ 130 เยน/เหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันที่ราว 111.16 เยน/เหรียญสหรัฐ
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ตามเกณฑ์ใหม่บาเซิล 3 ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ส่วนใหญ่สูงกว่าเกณฑ์สะท้อนความมีเสถียรภาพของระบบ โดยล่าสุดเดือน ก.พ.59 ประมาณการกระแสเงินสดคาดไหลออกสุทธิภายใน 30 วันที่ 2.09 ล้านล้านบาท แต่ระบบธนาคารพาณิชย์มียอดคงค้างการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง 3.51 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1.42 ล้านล้านบาท และคิดเป็นสัดส่วนการสำรอง 167.38%
  • 'อภิศักดิ์' เผยไม่มีแนวคิดต่ออายุลดค่าโอน-จดจำนอง หลังสิ้นสุด 30 เม.ย.59 อ้างภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มดีขึ้น และมีโครงการสินเชื่อบ้านประชารัฐรองรับ เอกชนร้องต่ออายุอีก 6 เดือน
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพร้อมดูแลราคาก๊าซแอลพีจี พ.ค. เดินหน้าหนุนเอสพีพีบนหลักการขายไฟในนิคมฯ ด้านเอกชนอ้อนขายไฟฟ้าไม่เกิน 50% ของกำลังผลิตเดิม และลดค่าไฟฟ้าให้ด้วย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • GLOBAL (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 12.6 บาท คาดกำไร 1Q16 +43% y-y ที่ 340 ล้านบาท ด้วยยอดขายเติบโต, และอัตรากำไรที่สูงขึ้น ปรับกำไรปี 2016-18 ขึ้น 7-4%
  • DCC (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 4.75 บาท กำไรไตรมาส 1/59 = 439 ล้านบาท เติบโต 14.4% YoY (ผลจากอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น-ค่าใช้จ่ายลดลง) แม้ยอดขายทรงตัว YoY ตามภาพ ประเมินแนวโน้มสินค้าวัสดุก่อสร้างจะเริ่มเติบโตใน 2H59 หากยังรักษาความสามารถการทำกำไร ขณะที่ยอดขายฟื้นตัวก็คาด 2H59 จะเติบโตเด่น อีกทั้งราคาหุ้นวานนี้ถูกขายทำกำไรลงมาพักที่เส้นแนวรับเทรนไลน์ขาขึ้น 4.20 บาท
  • AEONTS (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 127 บาท NPL มีทิศทางที่ดีขึ้นทำให้ไม่ต้องตั้งสำรองมากอย่าง 2 ปีที่ผ่านมา การปรับเพิ่มอันดับ Rating ลดต้นทุนเงินทุน มีการลงทุนใน CLMV ถึงแม้ปัจจุบันจะยังทำรายได้ยังไม่มากแต่มองว่าจะมีโอกาสเติบโตได้ในระยะยาว และประกาศจ่ายปันผล 1.85 บาท/ต่อหุ้น XD วันที่ 3 พ.ค.59
  • KCE (ฟันันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 83 บาท คาดกำไรปกติ 1Q16 ทำจุดสูงสุดใหม่ 716 ล้านบาท +17% Q-Q, +56.7% Y-Y จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น การใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นจึงดีต่อเนื่อง แนวโน้มจะดีขึ้นในไตรมาสถัดๆไป เราปรับกำไรปกติขึ้น 3.8% เป็นเติบโต 44% Y-Y โตโดดเด่นที่สุดในกลุ่ม
  • BCP (แอพเพิล เวลธ์) "ซื้อ"เป้า 38 บาท แม้ระยะสั้นจะมีแรงกดดันจากผลประกอบการที่ชะลอตัว แต่ราคาหุ้นสะท้อนไปแล้ว แนวโน้มกำไรช่วงที่เหลือของปีจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง คาด 2Q59 ฟื้นตัวสู่ระดับปกติ หลังจากโรงกลั่นกลับมาเดินเครื่องเต็มกำลัง ทั้งนี่ คาดผลประกอบการงวด 1Q59 จะขาดทุนสุทธิต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนอีกราว 189 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ