DELTA คาดยอดขาย-กำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อน จากการออกสินค้าใหม่ที่ผ่าน R&D ต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 27, 2016 13:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการ บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) คาดว่า ยอดขายในไตรมาส 2/59 น่าจะดีกว่าไตรมาส 1/59 ที่มี 1.1 หมื่นล้านบาท และกำไรคาดว่าน่าจะดีกว่าไตรมาส 1/59 ที่มีกำไรสุทธิ 1,250 ล้านบาท แม้ว่าในไตรมาส 2/59 ยังคงมีค่าใช้จ่ายด้านวิจัยและพัฒนา(R&D) ต่อเนื่อง อีกประมาณ 200-300 ล้านบาทจากไตรมาส 1/59 มีจำนวนเกือบ 400 ล้านบาท เพราะจะมีสินค้าตัวใหม่เข้ามาทำให้ยอดขายสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่าย ไม่เหมือนในไตรมาสแรกที่ผ่านมายอดขายโต2% และค่าใช้จ่าย R&D สูงทำให้กำไรลดลง 19.8%เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/58

ขณะที่ ในไตรมาส 3/59 คาดว่ายอดขายจะสูงขึ้นจากที่มีสินค้าใหม่ออกมาต่อเนื่องซึ่งเป็นผลจากการวิจัยและพัฒนาสินค้า ทั้งนี้บริษัทจะตั้งงบสำหรับวิจัยและพัฒนาต่อเนื่อง ปีละ 500 ล้านบาท เพื่อสร้างสินค้าใหม่รองรับความต้องการในตลาดได้ดี

ขณะที่ทั้งปี 59 เชื่อว่า บริษัทจะมีรายได้และกำไรดีกว่าปีก่อนที่มี รายได้ 4.8 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 6.7 พันล้านบาท โดยคาดว่าปีนี้อัตรากำไรสุทธิ(NET Profit Margin) จะใกล้เคียงปีก่อนที่ 14% ขณะที่รายได้ปีนี้คงเป้าหมายเติบโต 10%จากปีก่อนที่มี 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ

"มั่นใจว่าปีนี้มียอดขายและกำไรดีกว่าปี 58 ที่ผมมั่นใจเพราะผมไม่ได้เอาสินค้าเก่ามาขาย เราเลิกทำแล้ว แต่มันโตจากสินค้าที่ผ่าน R&D ซึ่งเราจะใช้ปีละ 500 ล้านบาทไปเรื่อยๆ เราจะโตโดยไม่เสี่ยงลงทุน ถ้าเกิดอะไรขึ้นเราก็จะใช้ฐานผลิตในไทยผมยอมจ่ายค่าโอที ค่าขนส่ง"นายอนุสรณ์ กล่าว

สำหรับสินค้าใหม่ ได้แก่ ในกลุ่ม Industrial Automation เช่น ลิฟท์ บันไดเลื่อน เป็นต้น ที่ใช้ในสำนักงาน อาคารต่างๆและโรงงานอุตสาหกรรม สินค้าในกลุ่มยานยนต์ที่จะรองรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น

ส่วนความคืบหน้าการลงทุนในอินเดียนั้น นายอนุสรณ์ กล่าวว่า บริษัทเพิ่งเจรจากับรัฐบาลอินเดียในการเข้าซื้อที่ดินในเมืองเชนไน เนื้อที่ 200 ไร่ เป็นเงินประมาณ 400-500 ล้านบาท และระหว่างนี้รัฐบาลอินเดียกำลังรวบรวมพื้นที่และจัดตั้งเป็นนิคมอุตสาหกรรมให้ด้วยเพื่อจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังนั้นคาดว่าปีนี้จะเริ่มลงทุนก่อสร้างโรงงาน ซึ่งใช้เนื้อที่ 10 ไร่ก่อน เงินลงทุนไม่มากไม่ถึง 100 ล้านบาท เพราะต้องทยอยขยายโรงงานตามออเดอร์ตลาด

ขณะที่การลงทุนในเมืองบังกาลอร์ จะจัดตั้งเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนา เบื้องต้นใช้เงินลงทุนราว 20 ล้านบาท

"อินเดียเป็นตลาดขนาดใหญ่ โดยรัฐบาลอินเดียไม่อนุญาตให้นำเข้าสินค้า แต่เราไปสร้างโรงงานและขายในอินเดียได้"

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ในอินเดียบริษัทได้รุกตลาดเทเลคอมได้ดีและขณะนี้เริ่มกระจายสินค้ากลุ่ม Industrial Automation โซลาร์เซลล์ สินค้ากลุ่มยานยนต์ และระบบ power sytem ที่ใช้กับระบบสื่อสาร ในปีนี้คาดว่ายอดขายในตลาดอินเดียจะเพิ่มเป็นกว่า 300 ล้านเหรียญ จากปีก่อนมียอดขายประมาณ 200 ล้านเหรียญ ซึ่งตลาดอินเดียไม่ได้เป็นตลาดโตเร็ว ซึ่งบริษัทปล่อยให้ตลาดนี้โตด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทได้เริ่มขยายการลงทุนโรงงานแห่งที่ 2 ในสโลวาเกียหลังปีก่อนทุ่มงบก่อสร้างโรงงานใหม่ โดยเบื้องต้นปีนี้ใช้งบขยายการผลิตเพียง 20 ล้านบาทก่อนที่เพราะต้องการดูสภาพตลาดก่อน ทั้งนี้โรงงานแห่งที่ 2 มียอดขายใกล้เคียงโรงงานที่1 จำนวน 200 ล้านเหรียญ

ปัจจุบันยอดขายของบริษัทมาจากยุโรป 60% สหรัฐ 30% และ เอเชีย 10% ซึ่งรวมไทย

อย่างไรก็ตามความผันผวนของเงินตราต่างประเทศกระทบบริษัท ซึ่งมีรายรับทั้งเงินดอลลาร์สหรัฐและเงินยูโร แต่ได้มีการทำประกันความเสี่ยง โดยเฉพาะส่วนที่เป็นรายจ่าย 20% ทึ่ใช้เป็นเงินบาท

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า บริษัทยังไม่มีแนวคิดจ่ายเงินปัผลระหว่างกาล เพราะระหว่างปียังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่างเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นที่ผ่านมา ก็มีซัพพลายเออร์ญี่ปุ่นได้รับผลกระทบ แต่ซัพพลายเออร์ของ DELTA ไม่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามบริษัทต้องรักษาสภาพคล่องเพื่อสำรองไว้ยามฉุกเฉิน โดยปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดอยู่ 2 หมื่นล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ