SCB คาดตั้งสำรองฯ Q2/59 ใกล้เคียง Q1/59 ที่ราว 5 พันลบ.หลังยังไม่เห็นสัญญาณ NPL เพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 4, 2016 08:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า แนวโน้มของการตั้งสำรองหนี้สูญ หนี้สงสัยจะสูญในไตรมาส 2/59 คาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/59 ที่ตั้งสำรองฯอยุ่ระดับ 5.01 พันล้านบาท เนื่องจากธนาคารยังไม่เห็นสัญญาณของแนวโน้มสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/59 โดยคาดว่า NPL ในไตรมาส 2/59 อาจจะทรงตัวจากไตรมาส 1/59 ที่อยู่ระดับ 2.64% แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยยังชะลอตัวอยู่ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการตั้งสำรองฯทั้งปี 59 มีโอกาสที่จะตั้งสำรองฯสูงขึ้นจากปีก่อนที่ 2.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามวัฏจักรของหนี้เสียที่จะเพิ่มขึ้นหลังจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาก่อนหน้านี้ โดยการตั้งสำรองฯที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ส่วนใหญ่จะมาจากลูกค้ากลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีและกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและส่งผลให้มีปริมาณหนี้เสียเพิ่มขึ้น แต่ธนาคารจะพยายามควบคุม NPL ในปีนี้ให้ไม่เกิน 3% จากปีก่อนที่ 2.8% ด้านการพัฒนาศักยภาพให้กับธุรกิจในเครือนั้น ธนาคารได้มองรูปแบบต่างๆที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพ โดยหนึ่งในรูปแบบที่สนใจ คือ การหาพันธมิตรจากต่างประเทศที่มีความชำนาญเข้ามาเสริมศักยภาพ โดยปัจจุบันธนาคารอยู่ระหว่างการมองหาพันธมิตรต่างชาติที่มีประสบการณ์และความชำนาญในธุรกิจเวลท์แมเนจเมนท์เข้ามาเสริมศักยภาพของธุรกิจเวลท์แมเนจเมนท์ของธนาคาร ซึ่งธนาคารจะนำแพลตฟอร์มของพันธมิตรต่างชาติเข้ามาผสมผสาน เพื่อทำให้ระบบการบริหารจัดการในธุรกิจเวลท์แมเนจเมนท์ของธนาคารเป็นระบบระดับเวิลด์คลาส ทั้งการให้บริการและการแนะนำของเจ้าหน้าที่มีทักษะความรู้มากยิ่งขึ้น และมีผลิตภัณฑ์และการบริการต่างๆเสนอให้กับลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งการหาพันธมิตรจากต่างชาติเข้ามาเสริมศักยพภาพนั้นเป็นสิ่งที่สร้างการพัฒนาได้อย่างรวดเร็วมากกว่าการที่ธนาคารพัฒนาเองอย่างเห็นได้ชัด

“โมเดลการหา partnership ก็เป็นหนึ่งในทุกโซลูชั่นที่เราสนใจ เพราะเป็นการพัฒนาศักยภาพที่รวดเร็วกว่าการที่เราไปทำเอง เราต้องการที่จะ serve ลุกค้าของเราให้ได้ดีที่สุด ตอนนี้ที่ดูๆอยุ่ก็มีกลุ่มธุรกิจ Wealth Management ที่เรามองหาพันธมิตรต่างชาติที่มีประสบการณ์และความชำนาญเข้ามาเสริมตรงนี้อยู่ ซึ่งเราอยากนำ Platform ของเขามา Integrate ทำให้ระบบของเราเป็นแบบ World Class คนของเรามีทักษะความรู้และการให้คำแนะนำอย่างดีมากขึ้น และมี Product ที่จะ Offer ให้กับลูกค้าหลากหลายขึ้น ไม่เพียงแต่ธุรกิจ Wealth Management เท่านั้นที่เรามองในโมเดลพาร์เนอร์ชิพ ในธุรกิจประกันของ SCB Life ก็มีโอกาสใช้โมเดลนี้ก็เป็นไปได้ เพราะเราก็อยาก serve ลูกค้าของเราให้ดี ไม่ใช่ exit ออกไป แต่ธุรกิจประกันตอนนี้ก็ดีอยุ่แล้ว"นายอาทิตย์ กล่าว

นายอาทิตย์ กล่าวว่า ส่วนบริษัทย่อย Digital Ventures ของธนาคารที่ลงทุนด้านดิจิทัลโดยเน้นการวิจัยด้าน FinTech หรือเทคโนโลยีทางการเงิน ใช้งบลงทุน 1-1.5% ของกำไรสุทธิของธนาคาร โดยมีกองทุน Venture Capital มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลงทุนในเทคโนโลยี ซึ่งภายในเร็วๆนี้จะมีการเซ็นสัญญาเพื่อสนับสนุนเงินทุนให้กับบริษัทที่นำเสนอผลงานเข้ามา 1-2 บริษัท โดยจะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เกิดความรวดเร็วในด้านการโอนเงินระหว่างประเทศมีความรวดเร็วมากขึ้น จากเดิมที่การโอนเงินระหว่างประเทศผู้รับจะได้รับเงินต้องรอข้าม แต่เทคโนโลยีดังกล่าวจะทำให้ผู้รับเงินสามารถรับเงินได้ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วินาที


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ