(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซึมตัวลงเล็กน้อย ยังกังวลเฟดขึ้นดบ.ถ่วงตลาด,แต่คาดกำไรบจ.ดียังหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 23, 2016 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ซึมตัวลงเล็กน้อย ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน หลังยังมีแรงกดดันจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ยังกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด แม้ว่าเช้านี้ตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่จะดีดตัวขึ้นได้เล็กน้อย ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่นักลงทุนได้คลายความวิตกกังวลชั่วคราวเกี่ยวกับกรณีของเฟดก็ตาม แต่เชื่อว่าการปรับลดลงของตลาดหุ้นไทยจะไม่มากนัก เนื่องจากยังมีปัจจัยบวกจากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/59 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ออกมาดีกว่าคาด อีกทั้งบล.กสิกรไทยยังได้ปรับเพิ่มกำไรต่อหุ้น (EPS) ของตลาดในปีนี้อีก 4% ซึ่งจะเป็น sentiment หนุนตลาดระยะสั้น โดยมองแนวรับบริเวณ 1,380 และแนวต้านที่ 1,395 จุด

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย คาดว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับซึมตัวลงเล็กน้อย ไม่มากนัก หลังยังได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ยังกังวลต่อการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าวันนี้ตลาดภูมิภาคจะปรับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนยังรอดูสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด

อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวกจากการที่ผลประกอบการไตรมาส 1/59 ของบจ.ออกมาดีกว่าคาด อีกทั้งบล.กสิกรไทย ได้ปรับเพิ่มประมาณการ EPS ของตลาดในปีนี้อีก 4% มาที่ 92.8 บาท/หุ้น ซึ่งจะเป็น sentiment หนุนตลาดระยะสั้น

พร้อมมองแนวรับที่บริเวณ 1,380 และแนวต้านที่ 1,395 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 พ.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,500.94 จุด เพิ่มขึ้น 65.54 จุด (+0.38%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,769.56 จุด เพิ่มขึ้น 57.03 จุด (+1.21%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,052.32 จุด เพิ่มขึ้น 12.28 จุด (+0.60%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 64.07 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 2.03 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 65.07 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 21.62 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.80 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.83 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.04 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 19.12 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.59 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 พ.ค.59) 1,385.86 จุด ลดลง 14.64 จุด (-1.05%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 142.63 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 พ.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 พ.ค.59) ปิดที่ 47.75 ดอลลาร์/
บาร์เรล ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 พ.ค.59) ที่ 4.90 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.64 แนวโน้มแกว่งแคบ รอปัจจัยใหม่ มองกรอบวันนี้ 35.60-35.70
  • แบงก์ชาติเผยการบริโภคอ่อนแอลง ส่งผลให้ยอดและการเติบโตของเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสแรกปี 59 พบลูกหนี้รายใหม่ 4.73 หมื่นล้านบาท เฉพาะธุรกิจอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลเกือบ 2 หมื่นล้าน เป็นลูกหนี้รี-เอ็นทรีด้วย แต่ใช้สารพัดวิธีให้หนี้ลดลงเช่นกัน
  • "เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์" รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาเสนอขายที่ดินในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมายังขยับแรงต่อเนื่อง สวนทางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ฟื้นตัวมากนัก คาดว่าเป็นเพราะการอนุมัติรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ของภาครัฐ ซึ่งทำให้เอกชนมีทางเลือกในการลงทุนซื้อที่ดินได้มากขึ้น ไม่กระจุกตัวเฉพาะรถไฟฟ้าเส้นทางเดิม
  • นางวรรณี รัตนพล นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากปัจจัยลบเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมโฆษณาในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาติดลบไป 8% และจากปัญหาเศรษฐกิจที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะฟื้นตัว เชื่อว่าภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในช่วงไตรมาส 2 จะยังคงติดลบ และต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 3 เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวคาดว่าอุตสาหกรรมโฆษณาน่าจะติดลบอยู่ที่ 9-10%
  • นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายชาวสวนปาล์มและสวนยางพาราแห่งประเทศไทย (คยปท.) และอุปนายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง คยปท.ขอให้ในเครือข่ายแกนนำล่ารายชื่อกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศเพื่อยื่นศาลปกครองเอาผิดกับคณะกรรมการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ที่ยังไม่ยอมจ่ายเงินชดเชยที่ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราตกต่ำตามโครงการสร้างความเข้มแข็งเกษตรกรชาวสวนยางของรัฐบาลตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2558 จ่ายเงินชดเชยไร่ละ 1,500 บาท ไม่เกิน 15 ไร่/ราย ผ่าน กยท.
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี (TMB Analytics) คาดการชะลอตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะส่งผลลบต่อการส่งออกของอาเซียน ขณะที่ความเสี่ยงหลักของไทยอยู่ที่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ โดยมองว่าการพัฒนาคุณภาพสินค้าและการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเป็นคำตอบที่จะทำให้การส่งออกของไทยผ่านพ้นอุปสรรคนี้ไปได้
  • นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากเปิดให้ใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ ภายใต้การกำกับ (นาโนไฟแนนซ์) เป็นเวลา 1 ปี พบว่าการปล่อยสินเชื่อไม่เติบโตตามที่คาดไว้ โดยมีบางรายเริ่มปล่อยสินเชื่อบ้างแล้วและบางรายที่ขอใบอนุญาตไปยังไม่เริ่มปล่อยสินเชื่อ เพราะต้องวางกลยุทธ์ใหม่เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PTTGC (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 71 บาท รายงานกำไรใน 1Q16 อยู่ในระดับที่เราและตลาดคาด โดยแม้จะมีผลกระทบจากการปิดโรงโอเลฟินส์ PTTPE ไป 1 เดือนแต่กำไรก็ยังอยู่ระดับที่แข็งแกร่งได้ ขณะที่ใน 2Q16 บริษัทจะได้รับผลกระทบจากการปิดโรงกลั่นเป็นระยะเวลา 2 เดือน แต่คาดผลกระทบจะไม่มากเท่ากับ 1Q16 ที่ผ่านมา โดยมอง PTTGC ยังมีพื้นฐานที่ดีโดยคาดกำไรทั้งปีจะยังเติบโตได้โดดเด่นจากกำไรในส่วนของ 2H16 เป็นหลัก
  • CK (เคจีไอ) "ซื้อ"เป้า 36.50 บาท ยังมีมุมมองในเชิงบวกต่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากความชัดเจนของความคืบหน้าในการประมูลโครงงานต่างๆของภาครัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในช่วงต่อไป ซึ่งจะช่วยหนุนให้ backlog ของ CK เพิ่มขึ้นจนถึง100 แสนล้านบาท นอกจากกำไรของบริษัทจะมียังมี upside อีกประมาณ 200-300 ล้านบาทแล้ว ความคืบหน้าของงาน backlog ในมือ และ margin ที่แข็งแกร่งอยู่ที่ 8.6% ก็จะช่วยหนุนให้กำไรปกติปี 2016 ฟื้นตัวขึ้นเป็น 1.2 พันล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 16 ล้านบาทในปี2015 ดังนั้น แนวโน้มที่แข็งแกร่งของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและการเติบโตที่แข็งแกร่ง
  • KCE (ยูโอบี เคย์เฮียน) ได้ผลบวกจากค่าเงินบาทอ่อนเนื่องจากส่งออกกว่า 95% อีกทั้งคาดผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่องอย่างน้อยจนถึง 3Q59 เนื่องจากแนวโน้มคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากการลดราคาสินค้า ซึ่งจะไม่กระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นเนื่องจากประสิทธิภาพของเครื่องจักรในโรงงานใหม่ที่ดีขึ้นและผลแห่งการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)
  • ERW (ยูโอบี เคย์เฮียน) ผลประกอบการ 2Q59 มีลุ้นเป็นบวกครั้งแรกในรอบหลายปี เนื่องจากได้รับผลบวกจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกทั้งปีนี้มีวันหยุดยาวหลายวัน ทั้งนี้ปัจุบันราคาหุ้นยังขึ้นมาไม่มากหากเทียบกับหุ้นในกลุ่มโรงแรม
  • AAV (เคจีไอ) เป้า Consensus 6.68 บาท ประเมิน Earnings momentum ในไตรมาส 2/59 ยังโต YoY จาก Load factor เฉลี่ยที่ 83% เทียบกับ 79% ในไตรมาส 2/58 ในเชิง Valuation PE ถูกเพียง 14 เท่า (จาก Bloomberg consensus) เทียบกับอัตราการเติบโตของ EPS ปี 2558 -2561 ที่ +30% ต่อปี CAGR (PEG ต่ำกว่า 1 เท่า)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ