นายภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ (EPG) เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศโดยตั้งงบลงทุนในช่วงงวดปี 59/60 และ 60/61 มากกว่า 2 พันล้านบาท เพื่อผลักดันรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 20% โดยตั้งเป้างวดปี 60/61 ทำรายได้เป็น 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท จากงวดปีนี้คาดการณ์ไว้ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตราว 15-25% จากงวดปีก่อนที่มีรายได้รวม 8,769 ล้านบาท
สำหรับงบลงทุนดังกล่าวจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพใน 3 กลุ่มสินค้า ราว 1,000 ล้านบาท รวมทั้งเตรียมงบลงทุนเพื่อการเข้าซื้อกิจการและการร่วมลงทุนทั้งในและต่างประเทศ 1 พันล้านบาท ในส่นนี้จะมาจากกำไรสะสมที่มีอยู่ราว 2,000 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กลุ่มบริษัท
"บริษัทยังมีกำไรสะสม 2,000 ล้านบาท เพื่อเตรียมไว้ซื้อกิจการหรือหาอาณาจักรใหม่ๆเข้ามาอาจไม่เกี่ยวกับ 3 ธุรกิจหลัก แต่เป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่ใช้เทคโนโลยี เครื่องจักร และฐานลูกค้าเดียวกัน ทั้งในและต่างประเทศ คาดได้เห็นในประเทศก่อนภายในปีนี้...เรามองธุรกิจที่เกี่ยวพันกับเทคโนโลยี ฐานการผลิต ตลาดที่เป็นลูกค้าเดิมในร้านค้าเอเย่นต์ทั่วประเทศ หรือค่ายรถยนต์ต่างๆ ทั่วโลก ทั้งอเมริกาและสหรัฐฯ ที่จะต่อยอดเราได้"นายภวัฒน์ กล่าว
นายภวัฒน์ กล่าวว่า การเติบโตของรายได้ในงวดปีนี้มาที่ 1.0-1.1 หมื่นล้านบาท จะมาจากทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็นที่จะรักษาการเติบโต 10% ต่อปี กลุ่มชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ คาดว่าจะเติบโต 50% เพราะมองว่าตลาดภาคยานยนต์น่าจะกลับมาในปีหน้าเพราะชะลอมา 3 ปีแล้ว และกลุ่มบรรจภัณฑ์พลาสติก คาดว่าจะโต 10% ซึ่งจะทำให้สัดส่วนรายได้จากกลุ่มชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ คิดเป็น 50% ของรายได้ของบริษัท
"ตัวเลข 1-1.1 หมื่นล้านบาท เราคิดบนพื้นฐานของเศรษฐกิจของประเทศที่เติบโตประมาณ 3-3.5% และเศรษฐกิจโลกเติบโตประมาณ 2.9% ส่งผลต่อการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐและการบริโภคในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจ EPG"นายภวัฒน์ กล่าว
ขณะที่แผนงานในปีนี้บริษัทจะเดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบเพื่อเพิ่มสัดส่วนการส่งออกและรายได้จากบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในต่างประเทศเป็น 70% ในปี 60/61 จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนประมาณ 62% โดยบริษัทจะขยายตลาดเครื่องจักรความเร็วสูงในสหรัฐฯมากขึ้น เพราะโอกาสเปิดมากขึ้น หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวดีขึ้น ตัวเลขเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับการสร้างบ้านดีขึ้น ส่งผลดีต่อความต้องการใช้ฉนวนกันความร้อน
"บริษัทเราไม่ได้ทำธุรกิจแค่ในประเทศ โลกคือตลาดของเรา ในวันที่ทั่วโลกผันผวนเราก็เตรียมความพร้อมด้วยการกระจายความเสี่ยงไปหลายประเทศ โดยปัจจุบันรายได้จากส่งออกอยู่ที่ 62-65% ในอนาคตอยากเพิ่มเป็น 70%"
ในงวดปี 59/60 ยังคงตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิที่ 15% บวก/ลบ จากปี 58/59 ที่อยู่ในระดับ 16.1% และตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นที่ 26-30% จากปีก่อนที่ระดับ 33% แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX 38-42% กลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS 26-30% และธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP 28-30%
"ปีนี้ตลาดภาครถยนต์ยังไม่มานับเป็นปีที่ 3 แล้ว เชื่อว่ารัฐบาลน่าจะออกมาตรการสนับสนุนการใช้รถใหม่ เพราะรถยนต์คันแรกใกล้หมด เชื่อว่าปีหน้าตลาดรถยนต์น่าจะกลับมา เราก็จะโตจากหลังคากระบะ ขณะที่การโตของการก่อสร้างในไทยเพิ่มสูงขึ้น ญี่ปุ่นก็มีการก่อสร้างรองรับงานโอลิมปิก 2020"นายภวัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนออกไปโรดโชว์ในประเทศสิงคโปร์และฮ่องกงปลายปีนี้ และส.ค.นี้ในงานไทยแลนด์โฟกัส เพื่อให้นักลงทุนทั่วโลกได้เข้าใจธุรกิจของ EPG มากขึ้น