นายชยวัฒน์ พิเศษสิทธิ์ ประธานกรรมการ บมจ. คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ (K) ผู้นำธุรกิจออกแบบ และตกแต่งอย่างครบวงจร (One-Stop-Shop Solution) เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจปีนี้กำไรสุทธิปีนี้จะมากกว่าปีก่อนที่ 53.54 ล้านบาท แม้ว่าแนวโน้มอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะต่ำกว่าปีก่อนที่ทำได้ 5.61% เนื่องจากบริษัทฯไปเน้นรับงานตกแต่งภายใน ในส่วนของสำนักงาน โรงพยาบาล และร้านอาหาร รวมถึงงานตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางของห้างสรรพสินค้า ซึ่งในส่วนนี้มีมาร์จิ้นที่ต่ำกว่า การทำช็อปแบรนด์เนม งานแสดงสินค้า
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯคาดว่า รายได้จะขึ้นไปแตะระดับ 1,250 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 954.44 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทฯเน้นงานที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) มูลค่าราว 827 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงไตรมาส 3/59 และบริษัทฯยังอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่อีกราว 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้งานไม่ต่ำกว่า 400-500 ล้านบาท
"ปีนี้อัตรากำไรสุทธิปีนี้จะต่ำลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่กำไรเรายังเติบโต เพราะเราเน้นรับงานขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น ทำให้กำไรสุทธิขยายตัวได้ตามการเติบโตของรายได้"นายชยวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้บริษัทฯคาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 2-3% หรือคิดเป็นราว 40 ล้านบาท จากปีก่อนมีไม่ถึง 1% โดยปัจจุบันบริษัทฯอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่มูลค่าราว 100 ล้านบาท ในพม่า ซึ่งเป็นงานตกแต่ง Renovate ห้างสรรพสินค้า และยังจะมีการเข้าประมูลงานในประเทศกัมพูชาเพิ่มเติมด้วย
นายชยวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทฯคาดว่าผลประกอบการทั้งกำไร และรายได้ในไตรมาส 2/59 จะเติบโตขึ้นจากในไตรมาสแรกที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14.1 ล้านบาท รายได้รวม 326.72 ล้านบาท และจะดีกว่าในช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากในไตรมาส 2/59 บริษัทฯ รับรู้รายได้ราว 300-350 ล้านบาทจากงานที่อยู่ในมือ โดยคาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาสนี้ และรับรู้รายได้บางส่วนในไตรมาสถัดไป รวมถึงยังมีงานบางส่วนที่ไม่สามารถรับรู้รายได้ทันในไตรมาสแรกที่จะรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาสนี้เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย โดยงานในมือส่วนใหญ่จะเป็นงานออกแบบ และตกแต่งภายใน หรือ Interior ไม่ว่าจะเป็นช็อปแบรนด์เนม สำนักงาน โรงพยาบาล และร้านอาหาร รวมถึงงานตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางของห้างสรรพสินค้า
ในขณะที่การขยายตลาดในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) บริษัทฯคาดว่าผลงานของคิงส์เมน พม่าในปีนี้มีโอกาสสูงที่จะพลิกมาเป็นบวก หรืออย่างน้อยก็จะไม่มีผลประกอบการขาดทุน เนื่องจากในปัจจุบันมีการทยอยรับงานอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผ่านมาได้ดำเนินการวางโครงสร้างต่าง ๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
ส่วนในประเทศกัมพูชาบริษัทฯได้ส่งมอบงานออกแบบ และตกแต่งช็อปแบรนด์เนมเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยถือเป็นการรับงานแรกในประเทศกัมพูชา ซึ่งในอนาคตก็มีโอกาสที่จะเข้ารับงานอย่างต่อเนื่อง
"ตอนนี้งานในมือจะเป็นงาน Interior เสียส่วนใหญ่ ซึ่งเราเองก็มีความสามารถในการรับงานที่ค่อนข้างหลากหลายมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นผลดีต่อบริษัทฯ เพราะจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯมากขึ้น ส่วนงานใน AEC นั้นก็มีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในพม่าที่มีการ Bidding งานอยู่ตลอด และในปีนี้คงจะไม่ขาดทุน และน่าจะเห็นทิศทางที่เป็นบวกมากขึ้นหลังจากที่ตลาดในพม่าเริ่มขยายตัว" นายชยวัฒน์ กล่าว