(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวน์ตามตลาดตปท., เล็งกลุ่มพลังงานหนุนหลังราคาน้ำมันปรับขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 7, 2016 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวน์ขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวก หลังตลาดสหรัฐฯปรับตัวขึ้น โดยตลาดเอเชียยังได้ประโยชนฺ์จากเม็ดเงินทุนไหลเข้ามาด้วย

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นด้วยทำให้ไปช่วยหนุนการลงทุนหุ้นในกลุ่มพลังงานที่จะช่วยผลักดันดัชนีฯได้ อย่างไรก็ดีเชื่อว่านักลงทุนคงจะเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวอยู่ โดยคงจะเล่นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ที่ปรับตัวลงไปแรงในช่วงก่อนหน้านี้ และหุ้นบมจ.ช.การช่าง (CK) ก็คาดว่าจะได้แรงหนุนจากความคืบหน้าโครงการไซยะบุรี อีกทั้งนักลงทุนคงจะมาเลือกเล่นหุ้นเก็งผลประกอบการในไตรมาส 2/59 ที่จะออกมาด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,443-1,444 จุด แนวต้าน 1,470 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 ก.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,918.62 จุด เพิ่มขึ้น 78.00 จุด (+0.44%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,859.16 จุด เพิ่มขึ้น 36.26 จุด (+0.75%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.73 จุด เพิ่มขึ้น 11.18 จุด (+0.54%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 32.18 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 7.94 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 111.39 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 29.63 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 10.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 4.86 จุด

ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลฮารีรายออีฏิ้ลฟิตริ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 ก.ค.59) 1,452.59 จุด เพิ่มขึ้น 2.57 จุด (+0.17%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,203.61 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 ก.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 ก.ค.59) ปิดที่ 47.43 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 ก.ค.59) ที่ 5.13 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.17 แข็งค่าจากวานนี้ นลท.เทขายดอลล์-เยนหันลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง,รอดูตัวเลขศก.สหรัฐ
  • ตลาดหุ้นสำคัญของโลกยังคงทรุดต่อดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้ารูดกว่า 100 จุด เงินปอนด์ต่ำสุดในรอบ 31 ปีและบริษัทประกันรายใหญ่ของอังกฤษ 3 แห่งได้ระงับการซื้อขายและการไถ่ถอนหน่วยลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์สหราชอาณาจักรของบริษัท นักกลยุทธ์จาก จูเลียส เบเออร์ กรุ๊ป ไพรเวท แบงก์กิ้ง สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ระบุ ค่าเงินเหรียญสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นนำหน้าสกุลเงินอื่น และอาจจะแข็งค่าขึ้นรุนแรงในอีก 3 เดือนข้างหน้า แม้ว่าวันที่ 6 ก.ค.จะยังอ่อนค่าอยู่ที่ 100.98 เยน/เหรียญสหรัฐหลังนักลงทุนแห่ซื้อเงินเยนก็ตาม
  • อธิบดีกรมสรรพากร เผยปัจจุบันมีผู้ประกอบการยื่นเสียภาษีและได้ลดหย่อนตามสิทธิของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กับกรมสรรพากรประมาณ 800 แห่ง แต่มีผู้ประกอบการที่ยังเสีย ภาษีไม่ถูกต้องเพียง 40 แห่ง คิดเป็นเงินภาษีที่จะต้องจ่ายให้ถูกต้องประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งทางกรมสรรพากรได้ส่งหนังสือไปถึงกิจการดังกล่าวทุกแห่งให้มาดำเนินการปรับปรุงการเสียภาษีให้ถูกต้อง
  • บอร์ด กนง.มองเศรษฐกิจไทยยังเผชิญความเสี่ยง พบคนไทยใช้จ่ายน้อยหมวดบันเทิงและนันทนาการ โดยเฉพาะท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งปกติเป็นหมวดนี้มีการใช้จ่ายสูง ห่วงบั่นทอนศักยภาพการขยายตัวเศรษฐกิจไทยระยะยาว ขณะเดียวกัน หนี้เสียเพิ่มกลุ่มลูกค้า SME-อุปโภคบริโภค รวมถึงเริ่มเห็นหนี้ค้างชำระมากขึ้นในสินเชื่อทุกประเภท
  • เอชเอสบีซีปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้และปีหน้าเหลือ 2.8% จาก 3% และ 3.1% หลังเศรษฐกิจโลกเสี่ยงมากขึ้น กดดันกนง.ลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ก.ย.เพื่อประคองเศรษฐกิจ-ดูแลค่าบาท
  • สคบ. อยู่ระหว่างปรับปรุงสัญญาธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์เป็นธุรกิจควบคุมสัญญาฉบับใหม่ สาระสำคัญคือ การปรับปรุงเกี่ยวกับการคิดอัตราดอกเบี้ยปรับ และการคิดค่าธรรมเนียมการติดตามทวงถามหนี้ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับพ.ร.บ. การทวงถามหนี้ฉบับใหม่ และกฎหมายห้ามคิดอัตราดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด หรือไม่เกิน 15% รวมถึงความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกันให้เป็นไปตามกฎหมายค้ำประกันฉบับใหม่ด้วย
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในเดือน มิ.ย. 2559 ว่า สามารถจัดเก็บรายได้ 2.36 แสนล้านบาท เกินกว่าเป้าหมาย 1.6 หมื่นล้านบาท หรือ 7.4% โดยภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 6,000 ล้านบาท และมีรายได้พิเศษจากค่าใบอนุญาตทีวีดิจิทัลเข้ามาเพิ่มอีก 9,000 ล้านบาท รวมถึงการจัดเก็บภาษีรถยนต์ ภาษีน้ำมัน และ ภาษียาสูบที่มีทิศทางที่ดีขึ้น

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TASCO (เคจีไอ) "ซื้อ"เป้า 38.85 บาท แม้กำไรใน 2Q16 มีแนวโน้มต่ำกว่าที่คาดไว้ อีกทั้งผลของeffective tax rate ที่สูงขึ้น ส่งผลให้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2016 ลง 13.5% อย่างไรก็ตาม แนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งตั้งแต่ 2H16 เป็นต้นไป คาดจะหนุนให้กำไรฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งในปี 2017 ราคาหุ้นยังถือว่าถูก โดยคิดเป็น P/E เพียงแค่ 9.5x เท่านั้น ในขณะที่หุ้นอื่นในกลุ่มซื้อขายอยู่ที่ระดับ 12-15x
  • CK (ไอร่า) เป้า 32.75 บาท ลงนามงานส่วนเพิ่มของโครงการไซยบุรี “Variation Order" – VO มูลค่า ประมาณ 19,400 ล้านบาท เกิดจากการปรับแบบจาก Original Design คาด Backlog เพิ่มขึ้นจาก 77,554 ล้านบาท เป็นประมาณ 96,964 ล้านบาท เพียงพอต่อการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 ปีข้างหน้า คาดช่วยลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอน/ความล่าช้า/การชะลอเปิดประมูลโครงการภาครัฐได้ในระดับหนึ่ง งานส่วนเพิ่มมูลค่า 14,000 ล้านบาท เป็นงานที่ทำเสร็จแล้ว เบื้องต้นคาด CK มีโอกาสรับรู้รายได้ดังกล่าวทั้งจำนวนใน 3Q/59 ทำให้เติบโตโดดเด่น
  • IVL (แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์) "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" เป้า 36.4 บาท มีแนวโน้มเติบโตสูงจากการเดินหน้ารุกเข้าซื้อกิจการ (M&A) อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พร้อมคาด 2Q59 กำไรเติบโตสูงจากกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น มี GPM ที่ดี หนุนด้วยกำไรจากสต็อกและ M&A เทคนิคประเมินแนวต้าน 33 บาท แนวรับ 31 บาท ตัดขาดทุน 29 บาท
  • TISCO (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เพิ่มเป้าเป็น 53 บาท คาดกำไร 2Q59 ที่ 1,286 ล้านบาท ดีขึ้น 2%QoQ และ 28%YoY โดยสินเชื่ออาจหดตัวต่อ แต่ NIM ยังทรงตัวอยู่ได้ ขณะที่คาดว่า NPL จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อจากไตรมาสก่อน ทำให้ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญลดลงเล็กน้อย คาดเห็นแนวโน้มลักษณะเดียวกันนี้ไปจนถึงสิ้นปี 59 ขณะนปี 60 คาดว่าสินเชื่อจะกลับมาเป็นบวกได้บ้างแล้ว จึงปรับประมาณการกำไรปี 60 ขึ้นอีกเล็กน้อย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ