KTB รับสินเชื่อรวมปีนี้มีโอกาสพลาดเป้าโต 3% แต่ยังมั่นใจกำไรก่อนตั้งสำรองโตกว่า 20%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 7, 2016 14:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า สินเชื่อรวมของธนาคารในปีนี้มีโอกาสเติบโตพลาดเป้ามายที่ 3% เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันสินเชื่อยังอยู่ในภาวะติดลบ เพราะสินเชื่อภาครัฐและสินเชื่อรายใหญ่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศ โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐยังไม่ชัดเจน รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวยยังส่งผลให้ภาคเอกชนชะลอการลงทุน

"ธนาคารยังไม่ปรับลดเป้าสินเชื่อในปีนี้ลง ยอมรับว่าเป็นความท้าทายที่ธนาคารต้องทำให้สินเชื่อถึงเป้าหมายที่ 3% ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่ แต่ประเมินว่าส์นเชื่อในครึ่งปีหลังน่าจะเห็นการขยายตัวขึ้นได้"นายวรภัค กล่าว

ด้านสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ก่อนการตั้งสำรอง (Gross NPL) ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 8 หมื่นล้านบาทในปีก่อน แต่จะไม่ถึงระดับ 1 แสนล้านบาท โดย Gross NPL ที่เพิ่มขึ้นมาจากสินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อรายใหญ่เป็นหลัก ขณะที่ปีก่อน Gross NPL เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อบ้าน

อย่างไรก็ตาม ธนาคารคาดว่าภาพรวม NPL ในปีนี้จะสูงกว่า 4% จากช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 3.7% ซึ่งการตั้งสำรองปีนี้คงจะมากกว่าระดับ 1.8 หมื่นล้านบาทในปีก่อน แต่ไม่ถึงระดับ 2 หมื่นล้านบาท

"ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวธนาคารจะต้อง balance ทั้ง 2 ส่วน ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นและกำไรของธนาคาร และพยายามรักษาความแข็งแกร่งของธนาคาร ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะรักษา coverage ratio ไม่ให้ต่ำกว่า 100% จากปัจจุบันอยู่ที่ 103% ในขณะที่ระบบธนาคารอยู่ที่ 130%"นายวรภัค กล่าว

สำหรับกำไรก่อนการตั้งสำรองในปีนี้ ธนาคารมั่นใจว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 58 ที่ธนาคารมีกำไรก่อนการตั้งสำรองอยู่ที่ 6.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกของปีนี้ธนาคารมีกำไรก่อนการตั้งสำรองเติบโตมากกว่า 20% แล้ว

นายวรภัค ยังกล่าวถึงการตัดสินใจไม่ต่อวาระการเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ KTB ว่า ตนเองจะทำงานครบวาระ 4 ปีในวันที่ 8 พ.ย.นี้แล้ว ซึ่งยอมรับว่าการทำงานที่ผ่านมารู้สึกเหนื่อยใจและเหนื่อยกายมากที่สุด เพราะ KTB เป็นธนาคารรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ มีโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลายส่วน มีกฎระเบียบที่ซับซ้อน และมีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการมากถึง 5 ชุด แต่ก็ถือว่าเป็นงานที่สนุกและท้าทาย

"ผมยังไม่ถือว่าอิ่มตัวกับการทำงานธนาคารนะ เพราะยังสนุกอยู่และมีความท้าทายอยู่มาก แต่สิ่งที่อยากเห็นธนาคารกรุงไทยต่อจากนี้ไป คือ การเข้าถึงสินเชื่อของลูกค้า เพราะยังมีลูกค้าจำนวนมากที่ยังเข้าไม่ถึง และทำให้กระบวนการรวดเร็วขึ้น"นายวรภัค กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ