TACC เตรียมส่ง Hello Kitty บุกเซเว่นฯก.ย.-ธ.ค.59 คาดโกยรายได้ไม่ต่ำ 40 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 15, 2016 10:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯยังพยายามเดินหน้าติดตั้งเครื่องกดเครื่องดื่มร้อนอัตโนมัติ (Hot Beverage Dispenser) ล่าสุดมียอดติดตั้งรวม 200 เครื่อง (ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2559) โดยภายในปี 2560 ตั้งเป้าติดตั้งให้ครบ 1,500 เครื่อง กระจายใน 7-Eleven ทั่วประเทศ

"แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้คาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะมีการดำเนินธุรกิจใหม่ ๆ เพิ่มในครึ่งปีหลัง เช่น การเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ ตัวการ์ตูนชั้นนำในกลุ่ม Sanrio ซึ่งประกอบด้วย Hello Kitty, Kerokerokeropi, Pompompurin, Bad badtzmaru, My Melody แต่เพียงผู้เดียวใน 7-Eleven โดยจะเริ่มวางจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์ในเดือนกันยายน-ธันวาคมนี้ คาดว่าจะสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท"นายชัชชวีกล่าว

ปัจจัยหนุนที่สำคัญที่จะช่วยผลักดันรายได้ในปีนี้ให้เติบโตไปได้ตามเป้าหมาย จะมาจากกลุ่ม B2B คือการเพิ่มจุดขายกาแฟ ลาเต้ และการขยาย All Cafe รวมถึงคาแรคเตอร์ ตัวการ์ตูนกลุ่ม Sanrio ที่จะวางจำหน่ายในเดือนกันยายนนี้ รวมถึง B2C คือ การขายชาเขียวพร้อมดื่มเซนย่า ในกัมพูชา ที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด และเครื่องดื่มทุเรียน มะม่วง ที่จะเป็น new product ที่จะส่งขายในเมืองจีนในไตรมาส 4/59 ก็คาดหวังว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดี ในระหว่างนี้สามารถทดลองซื้อชิมกันได้ในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในมุมกาแฟสด (All Café) ที่ตั้งอยู่แถบนักท่องเที่ยวจีนหนาแน่นกว่า 1,000 สาขา

ขณะเดียวกันบริษัทฯตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 12% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 8% ของรายได้รวม ขณะที่จะยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 30% และอัตรากำไรสุทธิที่ 7% ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 บริษัทฯมีรายได้จากการขาย 296.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.45 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 274.07 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 27.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.48 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.82 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 22.60 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี 2559 ซึ่งเติบโตมาจากกลุ่มสินค้าเดิม (Organic Growth) มีรายได้จากขาย 579.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.65 ล้านบาท หรือ 16.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้จากการขาย 496.09 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.05 ล้านบาท หรือ 30.93 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 38.95 ล้านบาท

"ยอดขายชา และกาแฟเย็นในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เนื่องจากเราได้รับโอกาสให้เพิ่มจุดจำหน่ายกาแฟลาเต้ขึ้น 25% เป็น 5,000 แห่ง ตั้งแต่ต้นปี เพราะเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ในส่วนของชานม ชาเย็น และชามะนาว ในมุมกาแฟสด เติบโตตามการขยายจำนวนมุมกาแฟสด (All Cafe) ในร้าน 7-Eleven กว่าเท่าตัว ราว 2,300 จุด จากปีก่อนมีเพียง 1,000 จุด ในช่วงเดียวกัน"นายชัชชวีกล่าว

นอกจากนี้ ในส่วนของยอดขายชาเขียวเซนย่า ในประเทศกัมพูชาก็เพิ่มขึ้นเป็น 96% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจาก TACC มีการตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศกัมพูชา ทำให้ยังคงสามารถครองความเป็นผู้นำในกัมพูชาได้ โดยคณะกรรมการบริษัทฯมีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกในอัตรา 0.06 บาท/หุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ