CPL ศึกษาโอกาสขยายผลิตสินค้าแฟชั่นหวังเพิ่มมาร์จินต่อยอดธุรกิจหนังฟอกสำเร็จรูป

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 15, 2016 11:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวัชชัย วงษ์เจริญสิน รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซี.พี.แอล.กรุ๊พ (CPL) เปิดเผยว่า บริษัทยังแสวงหาโอกาสขยายไปสู่สินค้าขั้นปลายหรือ End Product โดยอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตสินค้าสำเร็จรูปในกลุ่มแฟชั่น ซึ่งหากดำเนินการได้สำเร็จและคุ้มค่ากับการลงทุน ก็จะทำให้ CPL อยู่ในอุตสาหกรรมฟอกหนังสำเร็จรูปอย่างครบวงจรตั้งแต่ขั้นต้นจนถึงขั้นปลาย และจะกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมฟอกหนังโดยเฉพาะในกลุ่มแฟชั่น ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของ CPL ได้อย่างแน่นอน

หลังจาก CPL ได้ดำเนินการรุกเข้าสู่การบริหารจัดการสินค้าตั้งแต่ต้นทางด้วยการร่วมทุนกับบริษัทพาราเม้าท์ ไฮด์ เลเธอร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรฮ่องกง ในการจัดตั้งบริษัท อินทิเกรเต็ด เลเธอร์ เน็ตเวอร์ค จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าสำหรับหนังทุกประเภท (Leather Platform Service) ซึ่งขณะนี้ระบบการติดตั้งเครื่องจักรได้เดินหน้าไปแล้ว 80% โดยบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นนี้จะทำให้ CPL สามารถบริหารวัตถุดิบตั้งแต่ต้นทางได้ดีขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องสต็อกวัตถุดิบไว้เป็นจำนวนมากเหมือนที่ผ่านมา

สำหรับ ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 566.21 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.33% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 21.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/58 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 17.44 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 21.33% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่ในไตรมาสนี้บริษัทฯ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จากที่เคยขาดทุนในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการขายลดลง รวมถึงการที่บริษัทฯ สามารถผลักดันยอดขายสินค้าในกลุ่มที่มีมาร์จินสูงได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2 บริษัทฯ ยังรับรู้ผลขาดทุนจากการลงทุนในบริษัทร่วม จำนวน 2.56 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรและคาดว่าจะดำเนินการผลิตได้เต็มรูปแบบภายในปลายปีนี้ ส่วนรายได้จากการขายในครึ่งปีแรก 2559 (มกราคมถึงมิถุนายน) บริษัทฯ สามารถทำได้ 1,096.98 ล้านบาท

นายสุวัชชัย กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 เป็นที่น่าพอใจ แม้ว่ารายได้จากการขายจะลดลง แต่เราสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้น จากการขายสินค้าที่มีมาร์จินสูง ซึ่งต้องยอมรับว่าสินค้าของ CPL เป็นสินค้าจากธรรมชาติ ดังนั้น จึงอาจจะมีความเสี่ยงจากคุณภาพของสินค้าที่ควบคุมไม่ได้อยู่บ้าง แต่เป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ทำให้เรามีสินค้าทั้งที่มีมาร์จินสูงและสินค้าที่มีมาร์จินในระดับปกติ ซึ่งที่ผ่านมา เราพยายามนำเสนอสินค้าที่มีมาร์จินสูงอยู่แล้ว แต่อาจจะมีบางช่วงที่ยอดขายไม่ได้เป็นไปตามที่เราต้องการ

ดังนั้น การกลับมาเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของสินค้าที่มีมาร์จินสูงในไตรมาสที่ 2 ซึ่งผลักดันให้กำไรเติบโตขึ้นนั้น ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของเราที่จะทำตลาดสินค้าในกลุ่มนี้ให้เกิดความต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งปีหลัง เพื่อที่เราจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของปริมาณยอดขายในปีนี้ไว้ได้ที่ระดับ 5% ตามเป้าหมาย

ในส่วนของปัจจัยซึ่งเคยกดดัน CPL นั้นคลี่คลายไปมาก ไม่ว่าจะเป็นการรับรู้ผลขาดทุนที่เกิดจากการขายวัตถุดิบคงเหลือค้างสต็อกในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุน ซึ่งดำเนินการไปแล้วในไตรมาสแรกของปีนี้ ส่วนที่เหลือมาถึงไตรมาสที่ 2 ก็ไม่ได้มีนัยสำคัญจนกระทบกับผลการดำเนินงาน ขณะที่การจัดการกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทฯก็สามารถบริหารจัดการได้ดีขึ้นเป็นลำดับ จนสามารถกลับมามีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ฝ่ายบริหารให้ความสนใจที่สุดในขณะนี้ คือ ผลการดำเนินงานที่แท้จริงที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัทฯ โดยพยายามรักษาคำสั่งซื้อจากลูกค้าไว้ให้ได้อย่างเหนียวแน่นและยั่งยืน ท่ามกลางความผันผวนที่จะเกิดขึ้นในระยะต่อไป ขณะเดียวกัน ต้องดูแลบริหารจัดการด้านต้นทุน ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังสามารถทำได้ดี จนทำให้ผลการดำเนินงานที่แท้จริงยังเป็นบวกได้ แต่บริษัทฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยมีแนวคิดที่จะเพิ่มความสามารถในการหารายได้ รวมถึงเพิ่มมาร์จินให้กับสินค้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ