นางสาวนิตา ตรีวีรานุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ทาคูนิ กรุ๊ป (TAKUNI) เปิดเผยว่า บริษัทมีงานรับเหมาที่ลงนามในสัญญา และอยู่ในระหว่างก่อสร้างจำนวน 156.41 ล้านบาท ซึ่งการรับรู้รายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็น 10.11% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ที่ 8.78% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสูงกว่าการขายก๊าซ LPG
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/59 บริษัทฯ มีรายได้รวม 471.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156.25 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 49.60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 314.99 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 18.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.37 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 154.90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 7.34 ล้านบาท
ผลประกอบการในไตรมาส 2 ของปีนี้ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนเนื่องจากกลุ่มบริษัทฯได้เพิ่มสัดส่วนการเข้าลงทุนในบริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด จาก 47.72% เป็น 51.30% ทำให้เงินลงทุนดังกล่าวเปลี่ยนสถานะจากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อย ส่งผลให้สามารถรับรู้รายได้จากการให้บริการรับเหมาก่อสร้างจำนวน 179.14 ล้านบาท
"การรับรู้รายได้จากธุรกิจรับเหมาที่เข้ามาในไตรมาสนี้ จากเดิมที่รับรู้เพียงแค่ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทฯร่วม ส่งผลให้รายได้ ปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถือว่าเป็นทิศทางที่ดีในการสร้างรายได้เพิ่ม ซึ่งเรามีงานรับเหมาในมือที่อยู่ระหว่างดำเนินการรอรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง"นางสาวนิตา กล่าว