GBS ให้กรอบ SET Index สัปดาห์นี้ 1,525-1,555 จุด ฟื้นรับ GDP ไตรมาส 2/59 โต-Fund Flow ยังเข้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 17, 2016 12:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ได้ปัจจัยหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติ และ GDP ไตรมาส 2/2559 ของไทยที่ออกมาดีกว่าคาด แต่ความกังวลต่อเหตุการณ์ระเบิดในหลายพื้นที่ภาคใต้ ความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า ทำให้เกิดมีแรงขายระยะสั้นออกมา รวมถึงภาวะ Overbought ทางเทคนิคจะเป็นตัวกดดันให้ดัชนีมีความผันผวนง่าย

ดังนั้น ประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,525 - 1,555 จุด โดยแนะนำซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy ได้แก่ มพลังงานรับอานิสงส์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และกลุ่มปันผลครึ่งปีโดดเด่น ได้แก่ INTUCH, ADVANC, TCAP และ KKP

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ระบุว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยสะท้อนปัจจัยบวกราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น หลังรัสเซียเตรียมหารือกับซาอุฯ และประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ เกี่ยวกับการรักษาเสถียรภาพตลาดน้ำมัน และกลุ่มโอเปกจะจัดประชุม 26 – 28 ก.ย. เพื่อรักษาสมดุลของราคาน้ำมันดิบส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะเดียวกันนักลงทุนต่างชาติมีการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยในช่วง 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.) มูลค่า 6.9 หมื่นล้านบาทแม้จะขายสุทธิสลับออกมาบ้าง

ส่วนปัจจัยส่งผลเชิงลบต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยนั้น ยังคงต้องจับตาเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดภาคใต้ในชุมชน และแหล่งท่องเทียวซึ่งมีทั้งผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตกระทบต่อความมั่นใจในการลงทุน ประกอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธฟท.) แนะจับตา NPL แบงก์รัฐใกล้ชิด โดยหนี้เสียอยู่ที่ 5.9% ของสินเชื่อรวม ส่วนสินเชื่อโตแค่ 4.4%

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งอาจส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้สอดคล้องกับความเห็นของประธานเฟดสาขานิวยอร์กและแอตแลนตาส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตารายงานการประชุมเฟดในวันที่ 18 ส.ค.ที่จะรายงานผลการประชุมเมื่อวันที่ 26-27 ก.ค.ที่ผ่านมา และวันที่ 26 ส.ค.จะมีการประชุมประจำปีของเฟด ซึ่งนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดจะขึ้นกล่าวในการประชุมครั้งนี้ โดยอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยมีปัจจัยที่เข้ามากระทบได้แก่รายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ของสหรัฐที่ขยายตัวเพียง 1.2% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.6% รวมถึงรายงานตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐเดือนก.ค.ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย.จากที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น

และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับลดลงผิดคาดในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือนซึ่งลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือนและลดลงมากที่สุดนับแต่เดือนก.ย.58 ประกอบกับตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)สหรัฐที่ทรงตัวในเดือนก.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ได้ลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อซึ่งเป็นปัจจัยในการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้เป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ

อย่างไรก็ตาม การที่นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กได้ออกมาเปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้จากเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ ได้เพิ่มความกังวลต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐซึ่งจะกลับมาสร้างแรงกดดันต่อทองคำ

ดังนั้น ประเมินแนวโน้มราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงพักตัวจากแรงกดดันสัญญาณ Dead Cross รวมถึงแนวพักตัวที่อยู่ในช่วงแขนของรูปแบบ Bearish Flag ระยะสั้น ทำให้ราคายังมีแรงกดดันการปรับตัวลงรอบใหม่ โดยมีแนวรับ 1,315 – 1,310 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,365-1,370 เหรียญต่อทรอยออนซ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ