KTBST มอง SET Index สัปดาห์นี้ผันผวนในกรอบ 1,530-1,566 จุดรับปัจจัย ตปท.ยังกดดัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 29, 2016 10:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) เปิดเผยว่า มองหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีความผันผวน โดยปัจจัยต่างประเทศยังมีผลต่อทิศทางของตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสัญญาณว่าการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 20-21 ก.ย.ยังไม่ชัดเจน

ทั้งนี้ มองว่าทางเฟดพร้อมที่จะขึ้นดอกเบี้ยนานแล้ว แต่ยังติดที่ปัจจัยภายนอกหรือจังหวะเวลาอาจยังไม่เหมาะ อีกทั้งการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะเป็นการทำที่ตรงกันข้ามกับหลายๆประเทศที่ใช้นโยบายลดดอกเบี้ยหรือคงดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำไว้ ทำให้เฟดต้องคิดอย่างถี่ถ้วนในการตัดสินใจแต่ละครั้ง

ขณะเดียวกันจากการให้สัมภาษณ์ของ นาย Stanley Fischer หนึ่งในสมาชิกของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ที่จะดูตัวเลขภาคการจ้างงานประกอบการตัดสินใจได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ตัวเลขขอรับสวัสดิการการว่างงาน และตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่จะรายงานในวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นตัวที่สำคัญที่สุด โดยนักวิเคราะห์คาดว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจะเพิ่ม 180,000 ตำแหน่ง จากเดือนก่อนที่เพิ่ม 255,000 ตำแหน่ง

ดังนั้น ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้คงจะผันผวนจากตัวเลขเหล่านี้ที่จะออกมาในระหว่างสัปดาห์ ส่วนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม จะไปมีผลต่อตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ถัดไป

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ กรอบการเคลื่อนไหวจะถูกตรึงไว้ที่ 40-50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หากค่าดอลลาร์ไม่ได้พุ่งขึ้นอย่างผิดปกติ การที่มีกรอบการเคลื่อนไหวที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง และข่าวสารที่ออกมาว่าผู้ผลิตต่างเห็นพ้องที่จะไม่แข่งกันในเรื่องการผลิต ดังนั้นหุ้นได้ประโยชน์จะเป็นกลุ่มปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมัน และหุ้นบริษัทแม่ของกลุ่มคือ PTT แต่ผู้ผลิตน้ำมันอาจไม่ได้ประโยชน์เท่ากลุ่มแรก เพราะนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่น่าจะใช้ราคาน้ำมันที่ระดับนี้ในประมาณการกำไรอยู่แล้ว

สำหรับปัจจัยในประเทศ มองว่าแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศเป็นกำลังหลักที่จะพยุงและดันดัชนีฯให้ปรับตัวสูงขึ้นนั้น แม้ว่ายังมีแนวโน้มที่จะซื้อหุ้นไทยแต่อาจเบาลง เพราะรอดูความชัดเจนในเรื่องดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ขณะที่ตัวเลขส่งออกของไทยเดือน ก.ค.ที่ลดลง 4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และถ้าไม่รวมการส่งออกทองคำจะลดลงถึง 8.3% ทั้งนี้ เป็นการลดลงในกลุ่มสินค้าเกษตรกรรม -18.6% และสินค้าอุตสาหกรรม -0.4% สินค้าหลักๆที่ลดลงคือ ยานพาหนะและชิ้นส่วนฯ เรามองตัวเลขที่ออกมานี้ไปในทางลบ เพราะลำพังการใช้จ่าย-ลงทุนภาครัฐฯ อาจช่วยการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ได้ไม่มากนัก

นอกจากนี้ ตลาดผ่านช่วงของการขึ้นเครื่องหมาย “XD" จำนวนมากในสัปดาห์ก่อนไปแล้ว สัปดาห์นี้มีจำนวนที่น้อยลง แต่อาจมีการขึ้น “XD" ของหุ้นใหญ่บางตัว คือ PTT,EGCO,PTTGC และ SCB

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนนั้น ในสัปดาห์นี้เล่นได้ยาก จากความผันผวนในแต่ละวัน KTBST แนะให้ลงทุนในกรอบเวลาสั้นๆ“ลงซื้อ ขึ้นขาย"เน้นหุ้นที่ต่างชาติเข้าซื้อสลับตัวเล่น หรือให้เน้นหุ้นที่มีข่าวบวกเฉพาะตัวไว้ก่อน โดยในสัปดาห์นี้ที่มองกรอบแนวรับที่ 1,530 จุด แนวต้าน 1,566 จุด

สำหรับหุ้นที่ บล.KTBST แนะนำในสัปดาห์นี้ ยังแนะหุ้นขนาดใหญ่ ได้แก่ KBANK,PTT หุ้นสายสินค้าโภคภัณฑ์ที่เริ่มฟื้นตามเศรษฐกิจได้แก่ PTTGC,BANPU,RCL,KSL และหุ้นขนาดเล็กที่มีข่าวบวกเฉพาะตัวได้แก่ SCI,SVI,THANI,WICE


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ