(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ในกรอบจำกัดคลายวิตกหลังเฟด-ราคาน้ำมันขึ้นเล็กน้อย

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 13, 2016 09:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ได้ในกรอบจำกัด ภายหลังจากที่ล่าสุดนางลาเอล เบรนนาร์ด หนึ่งในคณะกรรมการของเฟด ที่มีสิทธิโหวตเสียง ได้มีมุมมองไม่ควรรีบเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วไป ทำให้ตลาดสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น และส่งผลให้ตลาดหุ้นในแถบเอเชียเหนือเช้านี้ต่างรีบาวด์ขึ้นด้วย

แต่ภาพโดยรวมของตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย ดูแล้วหากไม่มีข่าวลบเข้ามา Downside ของตลาดฯจะจำกัดมากขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยก็มีกระแสเรื่องกองทุนในประเทศเริ่มที่จะเข้ามาลงทุน โดยเป็นเม็ดเงินจาก LTF และกองอื่น ๆ ด้วย หลังจากที่ได้ขายออกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีสัญญาณการมองหุ้นเริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้น หลังจากนี้ไปก็ให้รอดูยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ

พร้อมให้แนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430-1,450 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (12 ก.ย.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,325.07 จุด พุ่งขึ้น 239.62 จุด (+1.32%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,211.89 จุด เพิ่มขึ้น 85.98 จุด (+1.68%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,159.04 จุด เพิ่มขึ้น 31.23 จุด (+1.47%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 91.73 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 36.89 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 20.45 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 43.92 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 6.17 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ ลดลง 15.81 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 11.80 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.06 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 ก.ย.59) 1,411.85 จุด ลดลง 33.43 จุด (-2.31%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,430.42 เมื่อวันที่ 12 ก.ย.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (12 ก.ย.59) ปิดที่ 46.29 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 ก.ย.59) ที่ 5.48 หรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.87 กลับมาแข็งค่า คลายกังวลหลังเฟดอาจยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในก.ย.
  • แบงก์คาดการณ์การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 14 กันยายนที่จะถึงนี้ กนง.จะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% ซึ่งแม้จะยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบโดยตรง แต่ก็ยังมีในบางประเด็นที่มีความเคลื่อนไหวให้ต้องจับตากันใกล้ชิดมากขึ้น โดยเฉพาะความผันผวนในตลาดเงิน-ค่าเงิน จากกระแสเงินทุนไหลเข้า และพฤติกรรม search for yield
  • เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-มิ.ย.) ธุรกิจประกันภัยทั้งระบบทำเบี้ยรับตรงได้ 3.82 แสนล้านบาท เติบโต 5.07% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) อยู่ที่ 7.9%
  • อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรได้เสนอกระทรวงการคลังให้คงภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวต จาก 10% เป็น 7% ที่จะสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2559 ออกไปอีก 1 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ การเพิ่มแวตในขณะนี้จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับนักลงทุนและประชาชนมากขึ้น
  • รมว.คลัง เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชะลอแผนการนำที่ดินมักกะสันแลกหนี้กับกระทรวงการคลัง มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างรอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความกฎหมายการเวนคืนที่ดินว่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง โดยต้องมีความชัดเจนว่าหากมีการนำที่ดินมักกะสันมาชำระหนี้แล้ว หลังจากนั้น หากมีการพัฒนาที่ดินในเชิงพาณิชย์ อาทิ การสร้างศูนย์การค้าจะขัดกับข้อกฎหมายใดหรือไม่ จึงต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SMPC (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 16.50 บาท คาดกำไรปกติ 3Q16 มีลุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง พร้อมปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2016 ขึ้นจากเดิม 28% เป็น 549 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% YoY และเป็นสถิติสูงสุดใหม่ ทั้งนี้ SMPC ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 15% ต่อปี ต่อเนื่องในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยมีแผนลงทุนขยายกำลังการผลิตเพิ่มในต่างประเทศ
  • WICE (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 4.45 บาท รายงานกำไร Q2/59 ที่ 15.8 ล้านบาท +61%QoQ แต่ทรงตัว YoY ทั้งนี้ การควบรวม SEL (Sun Express Logistics) สิงคโปร์ หนุนรายได้ก้าวกระโดด พร้อมคาดกำไรปี 2559 – 2560 เติบโตก้าวกระโดด
  • TISCO (ฟินันเซีย ไซรัส) เป้า 52 บาท สินเชื่อเดือน ส.ค. ลดลง 0.63% M-M แม้ว่าสินเชื่อจะลดลงแทบตลอดทั้งปี (8M16 -4.8% YTD) แต่มีสัญญาณดีที่การลดลงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดสินเชื่อจะกลับมาเป็นบวกในปีหน้า สำหรับกำไร 3Q16 เราคาด 1.2-1.3 พันล้านบาท ใกล้เคียง 2Q16 โดยกำไรก่อนสำรอง +3% Q-Q แต่การตั้งสำรองที่น่าจะเพิ่ม ทำให้กำไรสุทธิน่าจะใกล้เคียง 2Q16 ส่วนกำไรทั้งปี คาด +18% แนะ"ถือรอรับปันผล"ซึ่งคาด 2.50 บาท/หุ้น Yield 5% จ่ายปีละ 1 ครั้ง
  • CPALL (เออีซี) "ทยอยซื้อทยอย"เป้า 65 บาท นับเป็น Defensive Stock ซึ่งผลดำเนินงานเติบโตดีตาม กลยุทธ์รุกธุรกิจอาหารอิ่มสะดวกซื้อและการขยายสาขาต่อเนื่อง โดยช่วง 2H59 คาดกำไรโตทั้ง HoH และ YoY จากเข้า High Season และรับรู้ยอดขายสาขาใหม่ที่เปิดต่อเนื่อง หนุนคาดปี 59 กำไรโต 20.3%YoY อีกทั้งมี Upside 14.5%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ