(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ช่วงสั้นสลับขาย แรงซื้อกองทุน-ต่างชาติหนุน momentum

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 14, 2016 09:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ในช่วงสั้น แต่อาจเผชิญแรงขายทำกำไรสลับออกมาหลังจากวานนี้ปรับขึ้นไปแรง โดยมองว่าแรงซื้อของกองทุนและนักลงทุนต่างชาติยังน่าจะเป็นแรงหนุนโมเมนตัมต่อเนื่องมาถึงวันนี้ด้วย

นอกจากนี้ ตลาดฯ ยังคงมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับพอร์ตของต่างชาติตามการให้น้ำหนักการลงทุนใน FTSE ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามา 620 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค.จนถึงปัจจุบันมีแรงซื้อเข้ามา 12,000 ล้านบาท คงเหลืออีกประมาณ 9,000 ล้านบาทที่จะต้องปรับพอร์ตให้ทัน Dateline ในวันศุกร์นี้

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไร้ทิศทาง โดยยังมีความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แม้คาดว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ แต่ก็ยังอาจปรับขึ้นในเดือน ธ.ค.ทำให้ตลาดฯมองความเสี่ยงจากประเด็นนี้ ซึ่งจะต้องติดตามความชัดเจนจากการประชุมเฟดวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แม้เชื่อว่าคงไม่มีมาตรการใด ๆ ออกมา

อนึ่ง ในวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งตลาดฯคาดว่าน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50%

อีกทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมาราคาน้ำมันก็ได้ปรับตัวลงด้วยจากคาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันในปีหน้ายังคงชะลอตัว แต่เช้านี้ราคาน้ำมันฟิวเจอร์สรีบาวด์ขึ้นมาบ้างแล้ว ทำให้ปัจจัยดังกล่าวยังไม่แน่นอน

พร้อมให้แนวรับ 1,438 จุด ส่วนแนวต้าน 1,451-1,460 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (13 ก.ย.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,066.75 จุด ร่วงลง 258.32 จุด (-1.41%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,155.25 จุด ลดลง 56.64 จุด (-1.09%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,127.02 จุด ลดลง 32.02 จุด (-1.48%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 96.98 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 14.61 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.82 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 27.72 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.96 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 2.50 จุด

ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลขอบคุณพระเจ้า

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 ก.ย.59) 1,446.84 จุด เพิ่มขึ้น 34.99 จุด (+2.48%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,154.75 เมื่อวันที่ 13 ก.ย.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (13 ก.ย.59) ปิดที่ 44.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 ก.ย.59) ที่ 6.38 หรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.94/99 แนวโน้มอ่อนค่า รับคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยก.ย.นี้
  • แบงก์ห่วง ธปท.ขาดทุนแทรกแซงค่าเงินบาท แถมทำให้เอกชนไม่ซื้อป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน, ภายหลังจากธปท.เปิดเผยทุนสำรองทางการที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันแตะ 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และมีแนวโน้มจะมากขึ้นอีกหากตลาดเงินโลกยังมีความผันผวน ทำให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาในตลาดทุนและตลาดหุ้นไทย ดันเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ซึ่ง ธปท.จะซื้อเงินเหรียญสหรัฐ และออกพันธบัตรดูดเงินบาทออกจากระบบ
  • ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ ได้ข้อสรุปร่างแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลาก พ.ศ. 2517 เพื่อเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และกระทรวงการคลังพิจารณา คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ภายในเดือน พ.ย. 2559 นี้ สาระสำคัญคือ การให้สำนักงานสลากฯ เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ ซึ่งจะมีการปรับข้อความให้มีความกระจ่างชัดเจน ลดปัญหาการส่งให้กฤษฎีกาตีความภายหลัง โดยยืนยันว่าการออกสลากออนไลน์ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนในขณะนี้ เพราะต้องรอให้การเมืองมีความชัดเจนและขึ้นกับนโยบายรัฐบาล
  • แบงก์ชี้เงินทุนต่างชาติ-ค่าเงินยังผันผวน รอทิศทางที่ชัดเจนจากการประชุมเฟดในเดือนนี้ แต่ยังคงเป้าหมายจีดีพีที่ 3% พร้อมแนะรัฐออกมาตรการการคลังพยุงต่อเนื่อง
  • ธปท.เผยทุกแบงก์ในระบบผ่านทดสอบ Stress Test สำหรับปี 59 ภายใต้สมมติฐานเศรษฐกิจโลกไม่ดี เศรษฐกิจไทยถึงขั้นติดลบ พร้อมเริ่มคุยทุกแบงก์ให้ทำแผน Recovery plan เพิ่มเติม เพื่อแนวทางดูแลตัวเองยามที่มีปัญหา
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานการเรียกเก็บเงินตามเช็คทั่วประเทศในเดือน ส.ค. ปีนี้ ว่า ทั้งระบบมียอดใช้เช็คทั้งสิ้น 6.2 ล้านใบ มีมูลค่ารวม 3.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 1.1 ล้านใบ หรือ 21.35% และเพิ่มขึ้น 3.9 แสนล้านบาท หรือ 13.82% ตามลำดับ ในจำนวนนี้พบว่ามีเช็คคืนไม่มีเงินหรือเช็คเด้งรวม 6.9 หมื่นใบ มีมูลค่า 9,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.1 หมื่นใบ หรือ 19% และ 1,520 ล้านบาท หรือ 18.6% ตามลำดับ
  • ทีดีอาร์ไอ-นายแบงก์ ประสานเสียงเศรษฐกิจไทยยังผันผวน โชว์ปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจยังสูง ด้านภายในกำลังซื้อไม่ฟื้น เอกชนชะลอลงทุน ตรึงดอกเบี้ย ส่วนภายนอกลุ้นผลกระทบจากเฟดขยับดอกเบี้ย ภาวะสูญญากาศช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ บาทแข็งพรวด ส่งออกติดลบหนัก จึงมีโอกาสกดจีดีพีต่ำกว่า 3%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ITEL (บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยเสนอขายราคา IPO 5.20 บาท/หุ้น บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 60 ที่ 7.80 บาท (DCF) โดยคาดกำไรปีนี้ +135% และโตต่อเฉลี่ย 47% ต่อปีในปี 60-62

บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม เป็นผู้ให้บริการเช่าโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง มีโครงข่ายครอบคลุม 75 จังหวัดทั่วประเทศทั้งตามแนวเส้นทางรถไฟและเส้นถนน ซึ่งทำให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และให้บริการติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม และให้บริการ Data center ลูกค้ากระจายอยู่ในกลุ่มธุรกิจให้บริการโทรคมฯ ธุรกิจถ่ายทอดวิทยุโทรทัศน์ ภาครัฐและเอกชน ITEL ผ่านช่วงลงทุนหนักทั้งโครงข่ายหลักและ Data center ไปแล้ว หลังจากนี้เหลือเพียงลงทุน Last mile ขยายวงจรเช่าและ Data center แห่งที่ 2 (ร่วมทุนกับ AIT และ WHA)

  • TPCH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 23 บาท มีมุมมองเชิงบวกจากแนวโน้มกำไรที่จะทำ new high ต่อเนื่องใน 3Q59-4Q59 และเป็นขาขึ้นตลอดช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยคาดกำไรโตสูงเฉลี่ย 135% ต่อปีในปี 59-61 เพราะทยอยรับรู้รายได้ขายไฟจากโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลใหม่ 5 โรง จากปีก่อนที่มีโรงไฟฟ้าดำเนินการแล้ว 2 โรง บริษัทยังคงเป้าขยายกำลังผลิตไฟฟ้าเป็น 150MW ภายในปี 61 จากปัจจุบันที่ได้ PPA แล้ว 86MW คาดได้เพิ่มอีก 33MW ภายในปีนี้
  • KCE (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดผลประกอบการ 3Q59 จะออกมามากที่สุดของปีจากช่วง high season เนื่องจากแนวโน้มคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากการลดราคาสินค้า ซึ่งจะไม่กระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นเนื่องจากประสิทธิภาพของเครื่องจักรในโรงงานใหม่ที่ดีขึ้นและผลแห่งการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)
  • CPN (ไอร่า) เป้า 68 บาท จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยคาดผลการดำเนินงานปี 59 เติบโตตามความคาดหมาย หลัง 1H/59 ทำกำไรสุทธิไปแล้ว 54% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีที่ 8,715 ล้านบาท (+9%) ภายใต้ปัจจัยบวกจาก (1) รายได้ของศูนย์การค้าเดิม (SSSG) เพิ่มขึ้น 3-4% ทั้งจากการปรับขึ้นค่าเช่า อัตราการเช่าพื้นที่ที่สูงขึ้น และการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ส่วนกลาง (2) การเปิดตัวของศูนย์การค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้าและบางนา หลังปิดซ่อมบำรุง คาด CPN สามารถปรับขึ้นค่าเช่า ประมาณ 10-15% และ (3) การรับรู้รายได้เต็มปีของศูนย์การค้าใหม่ 4 แห่งที่เปิดตัวเมื่อปี 58 รวมถึงศูนย์การค้าในจังหวัดนครศรีธรรมราชอีก 1 แห่งที่มีแผนเปิดตัวในช่วง 3Q59 พร้อมคาด CPN จะเติบโตโดดเด่นอีกครั้งในปี 61 เป็นต้นไป หลังโครงการคอนโดมิเนียม 3 แห่งของบริษัทเริ่มทยอยโอนและรับรู้รายได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ