(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับฐานช่วงสั้นก่อนแกว่งไซด์เวย์ กังวลเฟดขึ้นดบ.,เก็งงบฯ พยุงตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 5, 2016 09:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้เปิดเทรดมีโอกาสที่จะปรับฐานในระยะสั้นก่อนที่จะแกว่งไซด์เวย์ ซึ่งถ้าดัชนีฯยืนเหนือระดับ 1,505 จุดได้ยังมีโอกาสที่จะปิดตลาดเป็นบวกได้ แต่เชื่อว่าน่าจะเผชิญกับแรงขายทำกำไรออกมาก่อนในช่วงต้น

อย่างไรก็ดี ตลาดฯ น่าจะได้แรงหนุนจากกองทุนในประเทศอาจเข้ามาเก็งงบฯไตรมาส 3/59 ของกลุ่มแบงก์ที่จะทยอยออกมาในกลางเดือน ต.ค.นี้ รวมถึงน่าจะแรงเก็งกำไรงบฯหุ้นตัวอื่น ๆ ที่คาดว่าจะออกมาดีด้วย

สำหรับราคาน้ำมันปรับฐานเล็กน้อย แต่ความกังวลปัญหา"ดอยซ์แบงก์"ผ่อนคลายลงแล้ว ทำให้น่าจะลดความเสี่ยงไปได้ ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบเล็กน้อย ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็นบวก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายหนึ่งออกมาระบุถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งเฟดจะมีการประชุมในวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ พร้อมกับระบุว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ส่งผลให้เช้านี้เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ซึ่งสะท้อนค่าเงินในภูมิภาคที่อ่อนค่าลงด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,505-1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,515-1,521 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (4 ต.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,168.45 จุด ลดลง 85.40 จุด (-0.47%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,289.66 จุด ลดลง 11.21 จุด (-0.21%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,150.49 จุด ลดลง 10.71 จุด (-0.50%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 52.24 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 69.53 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 27.08 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 11.49 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 13.15 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.18 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 ต.ค.59) 1,509.78 จุด เพิ่มขึ้น 18.84 จุด (+1.26%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 486.47 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ต.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (4 ต.ค.59) ปิดที่ 48.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 ต.ค.59) ที่ 4.69 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.77 แนวโน้มอ่อนค่าหลังดอลล์แข็ง-มีแรงซื้อจากผู้ค้าทอง
  • ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งจะใช้พัฒนา จ.ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ให้เกิดการลงทุนในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านล้านบาท
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับธนาคารมิซูโฮ พันธมิตรทางธุรกิจจากญี่ปุ่นพร้อมด้วยธนาคารพันธมิตรในประเทศญี่ปุ่นอีก 8 แห่ง เพื่อสนับสนุนทางการเงินมูลค่า 1.18 หมื่นล้านเยน หรือประมาณ 4,100 ล้านบาท ให้แก่ บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เซนได โอคุระ กำลังผลิต 38.1 เมกะวัตต์ ณ เมืองเซนได จังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น
  • ธนารักษ์เผยกฤษฎีกาชี้แล้วประเด็นพัฒนา-โอนสิทธิการใช้ประโยชน์ให้คลังเพื่อแลกภาระหนี้ ร.ฟ.ท.กว่า 6 หมื่นล้านบาททำได้ จับตากระแสกระทรวงการคลัง-ซุปเปอร์บอร์ดตัดสินเปิดทางให้ ร.ฟ.ท.บริหารเอง แล้วค่อยนำรายได้ใช้หนี้คลัง
  • ขณะนี้ พ.ร.บ. กสทช.ฉบับใหม่ อยู่ระหว่างการพิจารณาวาระที่ 2 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยสาระสำคัญของ พ.ร.บ. กสทช.ฉบับใหม่ มี 2 เรื่อง คือ การเพิ่มเติมหลักการดำเนินงานของ กสทช.ให้สอดคล้องกับนโยบายด้านเทคโนโลยีของประเทศภายหลังจากที่มีคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) และการเปลี่ยนแปลงที่มาของบอร์ด กสทช.คาดประกาศใช้ภายในปี 59
  • นายกสมาคมการค้าเหล็กลวดไทย เสนอให้กองปกป้องและตอบโต้ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศ เร่งรัดประกาศผลการทบทวนมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dumping: AD) และเก็บอัตราอากรตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กลวดคาร์บอนสูง รวมถึงเหล็กลวดคาร์บอนสูงที่เจือธาตุอื่น ที่มีแหล่งกำเนิดจากจีน หลังจากผู้ประกอบการในประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนัก

*หุ้นเด่นวันนี้

  • GL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 44 บาท ปรับกำไรสุทธิปี 60 ขึ้น 10% เป็น 1,687 ล้านบาท +57.5% Y-Y สะท้อนการซื้อกิจการศรีลังกา 30% และเมียนมาร์ 100% ต่อยอด โดยในศรีลังกาคุ้มค่า รับรู้กำไรได้ทันทีราว 180-200 ล้านบาท/ปี เริ่มตั้งแต่ Q4/59 ส่วนในเมียนมาร์คาดรับรู้กำไรราว 5 ล้านบาท/ปี กำไร 2 บริษัทใหม่คิดเป็น 5% ของกำไรในปีนี้และ 13% ปีหน้า ส่วนกำไร Q3/59 คาดดีต่อเนื่อง +13% Q-Q, +93% Y-Y และทำ new high ใน Q4/59
  • CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 74 บาท แม้ Q3 จะเป็น Low season และฐานกำไรสูงใน Q2/59 แต่เราคาดกำไรใน Q3/59 โต +1.7% Q-Q, +31% Y-Y จากความสำเร็จ Stamp promotion และรายได้การส่งเสริมการขายจาก Supplier ที่หักล้างค่าการตลาดได้หมด แนวโน้มกำไรดีต่อเนื่องใน Q4/59 ตามฤดูกาล โดยได้ปรับกำไรสุทธิปี 59-60 ขึ้น 6-9% เป็น +22.6% Y-Y ปีนี้และ +17.7% Y-Y ปีหน้า
  • BANPU (โกลเบล็ก) เป้า 20 บาท คาดปี 59 พลิกเป็นกำไรที่ 1,142 ลบ.(+150% YoY) จากโรงไฟฟ้า BLCP และหงสาผลิตครบ 3 หน่วย และราคาถ่านหินเริ่มพื้นตัว พร้อมปรับลดการลงทุนธุรกิจถ่านหินเพื่อเน้นโรงไฟฟ้าสู่ 2.4 GW ในปี 63 จากปัจจุบัน 1.63 GW เตรียมนำ BANPU POWER (BPP) เข้าตลท.ใน ต.ค.59 โดยนำเงินไปชำระคืนเงินกู้แก่ BANPU ราว 400 ล้านดอลลาร์ และลดภาระดอกเบี้ยได้ราว 800 ล้านบาทต่อปี และราคาถ่านหินดีดตัวขึ้นล่าสุด 83.1 US/Tons
  • LIT (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า Consensus 15.3 บาท คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานช่วง H2/59 จะเติบโต HoH เนื่องจากเป็น High Season ของธุรกิจ (สินเชื่อสำหรับการทำธุรกิจกับหน่วยงานภาครัฐฯจะเร่งการเบิกจ่ายช่วงปิดงบประมาณการฯประจำปีฯ) ด้านรูปแบบราคาวานนี้ดีดพ้นแนวต้านเทรนไลน์ขาลงที่ 10.4 บาท และทะลุแนวต้าน 10.8 บาทได้ ประเมินมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 11.8 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ