KTBST มอง SET ปรับลงรับปัจจัยลบตปท.คาดต่างชาติขายลดเสี่ยงผลเลือกตั้งสหรัฐฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 3, 2016 09:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ว่า มีโอกาสที่ดัชนีฯจะปรับตัวลดลง จากการที่นักลงทุนต่างประเทศหรือสถาบันฯขาย เพื่อลดความเสี่ยงจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และตลาดจะมีผันผวนมาก จากที่นักลงทุนเข้าเก็งกำไรในหุ้นบางตัว

ส่วนผลประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ตัดสินใจคงดอกเบี้ยไว้ โดยมีการระบุว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งตลาดตีความว่าน่าจะปรับขึ้นเดือน ธ.ค.หลังทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือน ธ.ค.จาก Fed Fund Futures Probability ของการประชุมเดือน ธ.ค.สูงถึง 78.0%

อย่างไรก็ตาม ผลประชุม FOMC นั้นกลับกลายเป็นปัจจัยรอง อาจเป็นเพราะตลาดคาดอยู่แล้ว แต่เรื่องที่ใหญ่กว่าและมีผลต่อตลาดในคืนที่ผ่านมา คือ การที่ FBI เข้าตรวจสอบ email ของนางฮิลลารี่ ที่อาจทำให้นายทรัมป์ พลิกมามีคะแนนนำ (poll) ถึงกับเอาไปเทียบว่า จะสร้างความปันป่วนให้กับตลาด FX มากกว่าผลของ BRExit หาก Trump ชนะการเลือกตั้งจะเป็นเหตุให้นักลงทุนต่างปรับพอร์ต เพื่อรับมือ

ดังนั้น ในวันนี้ภาพตลาดหุ้นต่างประเทศน่าจะออกมาในทางที่เป็นลบ ส่วนราคาน้ำมันดิบความหวังเรื่องลดการผลิตน้ำมันที่จะตัดสินใจ 30 พ.ย. มีน้อยลง บวกกับตัวเลข stock น้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่รายงานโดย EIA เพิ่มขึ้นถึง 14.4 ล้านบาร์เรล จะกดราคาน้ำมันดิบ WTI ไว้

สำหรับปัจจัยในประเทศ ไม่ได้มีอะไรใหม่ๆ แต่ปัจจัยเดิมๆ คือ แรงกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐฯและเก็งงบไตรมาส 3 ยังเป็นตัวบวกของตลาด แต่วันนี้ปัจจัยลบต่างประเทศมีมากกว่าเลือกตั้งสหรัฐฯ กับน้ำมัน จึงมีโอกาสที่ดัชนีฯจะปรับตัวลดลง จากการที่นักลงทุนต่างประเทศหรือสถาบันฯขาย เพื่อลดความเสี่ยงจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และตลาดจะมีผันผวนมาก จากที่นักลงทุนเข้าเก็งกำไรในหุ้นบางตัว

"สิ่งที่เราสังเกตเห็นวานนี้ คือ หุ้นกลุ่มใหญ่ ในกลุ่มเดียวกัน บางตัวเป็นบวก บางตัวเป็นลบ แต่ฝั่งลบมีน้ำหนักมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เราไม่เห็นกันบ่อยนัก เพราะส่วนใหญ่ถ้าปรับตัวลงหรือขึ้นมักจะไปในทางเดียวกัน แต่นั่นเป็นสัญญาณว่า นักลงทุนไม่ได้มองตลาดไทยแย่มาก และมีการเลือกซื้อในหุ้นเป็นรายตัวไป โดยตัวแปรที่จะมีผลต่อตลาด จะเป็นในความคืบหน้าในกรณี email ของนางฮิลลารี่ การคาดการณ์ผลประชุมธนาคารกลางอังกฤษเย็นวันนี้ (3พ.ย.) และราคาน้ำมัน"นายวินกล่าว

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แม้จะผ่านการประชุม FOMC ไปแล้ว แต่ความเสี่ยงเรื่องผลเลือกตั้งสหรัฐฯจะเป็นตัวกดดันตลาด เราแนะนำชะลอการลงทุน ในหุ้นขนาดใหญ่ที่ไม่ได้มีปัจจัยบวกหนุน และเข้าลงทุนในลักษณะเก็งกำไรช่วงสั้นๆ เน้นข่าวบวกรายตัว รวมทั้งหุ้นที่มีการเก็งผลประกอบการ 3Q และหุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ หุ้นที่แนะนำ BANPU,IVL,NDR,TSE,HPT มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,490-1,507 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ