TRUE เผย Q3/59 ขาดทุน 2.7 พันลบ.จากค่าขยายโครงข่าย-ไลเซ่นส์ แต่ EBITDA โต 53% ตามฐานลูกค้าเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 11, 2016 11:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/59 กลุ่มทรูมีผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ จำนวน 2,753.5 ล้านบาท เป็นผลจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขยายโครงข่ายและการให้บริการให้ครอบคลุมประชากรทั่วประเทศ รวมถึงการรับรู้ค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 900 MHz เต็มไตรมาส

ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/59 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการโดยรวมเพิ่มสูงขึ้นถึง 19.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า เป็นจำนวน 2.26 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตามการขยายตัวของฐานลูกค้าและการใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 53% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้าเป็น 6.4 พันล้านบาท ซึ่งไม่รวมกำไรจากการโอนเสาโทรคมนาคมใหม่เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) ในปี 58 เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบผลการดำเนินงานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

"ความมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างต่อเนื่องเสมอมาในการพัฒนาเครือข่ายและเพิ่มคุณภาพการให้บริการของกลุ่มทรู เห็นผลอย่างชัดเจน โดยสามารถเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี และทำให้ กลุ่มทรูยังคงรักษาการเติบโตอย่างเข้มแข็งของรายได้ EBITDA และฐานลูกค้า ได้อย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3 โดยเฉพาะที่กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งทรูมูฟ เอช มีผลประกอบการที่เติบโตโดดเด่น และเหนือกว่าผู้ประกอบการรายอื่นเป็นอย่างมาก ด้วยรายได้จากการให้บริการที่เพิ่มขึ้น 32% และ EBITDA ที่เพิ่มขึ้น 117% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า"นายศุภชัย กล่าว

นอกจากนี้ รายได้จากบริการบรอดแบนด์สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป ยังคงรักษาการเติบโตสูงในอัตราเลขสองหลัก จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า ในขณะที่ ผลตอบรับที่ดีต่อการถ่ายทอดสดรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ส่งผลให้รายได้จากค่าสมาชิกที่กลุ่มทรูวิชั่นส์เติบโตเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ทรูมูฟ เอช ยังคงเติบโตโดดเด่นและต่อเนื่องในไตรมาส 3/59 จากความแข็งแกร่งในเรื่องเครือข่ายประสิทธิภาพสูงและความครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงการนำเสนอแคมเปญดีไวซ์ร่วมกับค่าบริการได้อย่างคุ้มค่าและตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทำให้เติบโตสูงทั้งในกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือน และระบบเติมเงิน ซึ่งมีรายได้เพิ่มสูงขึ้น 29% และ 40% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ตามลำดับ ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการของทรูมูฟ เอช เติบโต 32% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า และมีส่วนแบ่งตลาดรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 24.2% ในไตรมาส 3/59 ในขณะที่ รายได้จากการให้บริการของผู้ประกอบการใหญ่รายอื่นมีจำนวนรวมกันเติบโตขึ้นเพียง 0.6% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า

โดย ทรูมูฟ เอช มีผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิเพิ่มขึ้นในระหว่างไตรมาสจำนวน 1.1 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วน 75% ของจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิในอุตสาหกรรม ทำให้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 22.6 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส

ขณะที่ทรูออนไลน์ ยังคงมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้ประชากรไทยสามารถเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้เพิ่มขึ้น ผ่านการขยายโครงข่ายบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ต ของกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีความครอบคลุมแล้วกว่า 8.6 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ สิ่งนี้ ร่วมกับผลตอบรับที่ดีต่อเนื่องต่อแคมเปญไฟเบอร์บรอดแบนด์คุณภาพสูงของกลุ่ม โดยเฉพาะแพ็กเกจบริการคอนเวอร์เจนซ์ภายใต้กลุ่มทรู ผลักดันให้ฐานลูกค้าบรอดแบนด์ของกลุ่มเพิ่มขึ้นเป็น 2.7 ล้านราย ซึ่งส่งผลให้รายได้จากการให้บริการบรอดแบนด์สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไปเพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า

ทรูวิชั่นส์ ยังคงมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การรับชมโทรทัศน์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ด้วยการสรรหาคอนเทนต์คุณภาพสูงที่หลากหลายและครบครัน พร้อมคุณภาพที่คมชัดแบบเอช ดี อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผลตอบรับที่ดีเยี่ยมต่อการได้สิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และรายการฟุตบอลชั้นนำอีกหลายรายการบนช่องบีอินสปอร์ต ผ่านแพลตฟอร์มของทรูวิชั่นส์ ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจ มีจำนวนสมาชิกในระบบค่าบริการสมาชิกในระหว่างไตรมาสเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งผลักดันให้ฐานลูกค้าทั้งหมดของทรูวิชั่นส์เพิ่มขึ้นเป็น 3.8 ล้านราย และมีรายได้จากค่าสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 2.0 พันล้านบาท ในไตรมาส 3/59


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ