(เพิ่มเติม) EFORL คาด Q4/59 รายได้ 900 ลบ.จาก 856 ลบ.ใน Q3/59,หวังพลิกกำไรปี 60 จากปีนี้ขาดทุน-รายได้หด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 14, 2016 18:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรวุทธิ์ ปางวิรุฬห์รักข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อี ฟอร์ แอล เอม (EFORL) กล่าวว่า บริษัทมั่นใจยอดขายในช่วงไตรมาส 4/59 จะอยู่ที่ราว 900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 3/59 ที่มีรายได้รวม 856 ล้านบาท จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีมากขึ้นในช่วงท้ายปี โดยเฉพาะในส่วนของยอดขายเครื่องสำอางคอสเมติก ที่บริษัทเร่งทำโปรโมชั่นออกสู่ตลาด เพื่อกระตุ้นยอดขาย ขณะที่ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ก็มีสัญญาณการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ได้รับอานิสงส์จากมาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ

แต่ทั้งปีนี้ บริษัทคาดว่าจะยังคงมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ หลังในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้มีผลขาดทุนสุทธิ 127.98 ล้านบาท ขณะที่คาดว่ารายได้ทั้งปีนี้จะทำได้ราว 3,500-3,600 ล้านบาท ลดลงจาก 4,504 ล้านบาทในปีที่แล้ว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวตั้งแต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้ภาพรวมของธุรกิจความงามมีอัตราการเติบโตที่ลดลงเป็นครั้งแรก เพราะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อลดลง

อย่างไรก็ตามธุรกิจเครื่องสำอางยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ทำให้บริษัทผลักดันสินค้าคอสเมติกเข้าสู่ตลาดมากขึ้น โดยที่ผ่านมา บริษัท สยามสเนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มได้ออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมคุณค่าแท้เมือกหอยทาก ภายใต้แบรนด์ “Snail 8" เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น มาร์ก, ครีมกันแดด, เซรั่ม, ครีมบำรุงผิว เป็นต้น ซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้ของธุรกิจบริการความงามให้กับบริษัท โดยสิ้นไตรมาส 3/59 มีรายได้จากผลิตภัณฑ์ Snail 8 อยู่ที่ 90 ล้านบาท

"บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจโดยหันมาทำการตลาดในเชิงรุกเพื่อผลักดันสินค้าในกลุ่มคอสเมติกเข้าสู่ตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการทำ Make up Surgery การทำ Beauty Center รวมถึงการปรับโฉมสาขาใหม่ เพื่อให้บริการด้านความสวยความงามแบบครบวงจร"นายธีรวุทธิ์ กล่าว

นายธีรวุทธิ์ กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างวางกลยุทธ์การดำเนินงานในปี 60 เพื่อให้ผลการดำเนินงานในภาพรวมกลับมาเติบโต และคาดหวังที่จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ โดยปัจจัยหนุนที่สำคัญในปีหน้า คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ ที่น่าจะส่งผลดีต่อกำลังซื้อในทุกภาคส่วน ซึ่งบริษัทก็น่าจะได้รับอานิสงส์ไปด้วย นอกจากนี้ธุรกิจบริการความงามยังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น รวมถึงธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยังมีแนวโน้มการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

ส่วนความคืบหน้าในการนำบริษัท ดับบลิวซีไอ โฮลดิ้ง จำกัด (WCIH) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (WCIG) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการให้บริษัทดังกล่าวมีผลประกอบการที่ดี จากที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าธุรกิจบริการความงามได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้บริษัทมีผลขาดทุน ซึ่งคาดว่าหากในปีหน้ามีผลประกอบการที่ดีขึ้นก็น่าจะมีโอกาสเห็นความคืบหน้าของการนำวุฒิศักดิ์ คลินิก เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

"การวางกลยุทธ์ในปี 60 น่าจะทำให้ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ และธุรกิจบิวตี้ มีการเติบโตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจเครื่องมือแพทย์ ที่ยังได้รับการสั่งซื้อจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนรายได้ถึง 70% รวมถึงธุรกิจบริการความงาม น่าจะได้รับปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่น่าจะส่งผลดีต่อกำลังซื้อในทุกระดับ"นายธีรวุทธิ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ