RATCH คาดงบลงทุนปี 60 ต่ำกว่าปี 59 ทำโครงการต่อเนื่อง,เดินหน้าขยายหลายธุรกิจทั้งใน-ตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 15, 2016 17:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายรัมย์ เหราบัตย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) เปิดเผยว่า ในปี 60 บริษัทจะวางงบลงทุนต่ำกว่าปีนี้ที่ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากโรงไฟฟ้าหงสาที่สปป.ลาวเดินเครื่องผลิตแล้ว คงเหลือแต่โครงการเซเปียน-เซน้ำน้อยใน สปป.ลาวขนาด 410 เมกะวัตต์ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการคาดว่าจะจ่ายไฟเชิงพาณิชย์เข้ามายังประเทศไทย 370เมกะวัตต์ในปี 61 เช่นเดียวกับโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมเมาท์ เอ็มเมอรัล ขนาด 180 เมกะวัตต์ ที่รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 61 เช่นกัน

ดังนั้น ในปีหน้าบริษัทจะไม่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เพิ่มเติมเข้ามา เว้นแต่การลงทุนซื้อกิจการโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการผลิตแล้ว โดยปีนี้บริษัทจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบแล้ว 6.4-6.5 พันเมกะวัตต์

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ 1 หมื่นเมกะวัตต์ในปี 66 เนื่องจากบริษัทได้มีการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

นอกเหนือจากการลงทุนธุรกิจไฟฟ้าแล้ว บริษัทมองโอกาสที่จะลงทุนธุรกิจใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะธุรกิจต้นน้ำพลังงาน คือเชื้อเพลิง โดยบริษัทสนใจลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ที่ผ่านมารัฐสนับสนุนให้เอกชนจัดหาก๊าซแอลเอ็นจี นอกเหนือจาก บมจ.ปตท.(PTT) และล่าสุดได้เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สร้างคลังก๊าซแบบลอยน้ำ (FSRU) ขนาด 3-5 ล้านตัน โดยบริษัทฯจะหารือกับ กฟผ.ว่าจะเปิดโอกาสให้เข้าไปมีส่วนร่วมได้หรือไม่ อย่างไร

ส่วนการสร้างคลังนำเข้าแบบลอยน้ำที่เมียนมาขนาด 3 ล้านตันนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทเอกชนที่ได้สัมปทานธุรกิจน้ำประปาใน สปป.ลาว เพื่อร่วมทุนในธุรกิจดังกล่าวหลังจากมีแผนขยายธุรกิจน้ำประปาในส่วนลาวตอนเหนือและลาวตอนใต้ เป็นผลสืบเนื่องจากรัฐบาลลาวอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ คาดว่าจะลงนามสัญญาร่วมทุนได้ภายในครึ่งแรกปี 60

รวมทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างการยื่นรายละเอียดผลการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซกอง 4 ขนาด 400 เมกะวัตต์ ที่สปป.ลาว โดยโครงการนี้ราชบุรีฯถือหุ้นอยู่ 60% หลังจากรัฐบาลลาวอนุมัติก็จะทำเรื่องเสนอขายไฟฟ้าให้กับไทยเพื่อพิจารณาต่อไป ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าเซกอง 5 นั้น คงต้องพับแผนไปหลังจากรัฐบาลลาวต่ออายุสัญญาให้กับผู้ที่ได้รับสัมปทานรายเดิมไปแล้ว

นายรัมย์ กล่าวว่า สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าซัมเซล 5 ขนาด 300 เมกะวัตต์ที่อินโดนีเซียนั้น บริษัทได้ยื่นเสนอขอถือหุ้นในโครงการดังกล่าว 30% และอยู่ระหว่างการรอผล เช่นเดียวกับโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซฯ รีอัลขนาด 250 เมกะวัตต์ที่ได้ยื่นประมูลไปแล้ว คาดว่าจะรับทราบผลในเร็วๆนี้

นอกจากนี้ บริษัทฯยังร่วมทุนกับบมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS)และบมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) โดยถือ 10% ได้เข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง โดยล่าสุดได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้รับสัมปทานออกแบบ และก่อสร้างงานโยธา การจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุง รวมมูลค่าทั้งหมดเกือบ 1แสนล้านบาท

"แม้ว่าบริษัทฯจะแตกไลน์มาลงทุนธุรกิจใหม่แต่สัดส่วนรายได้หลักยังมาจากธุรกิจพลังงานอยู่ โดยสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานจะลดลงอย่างมีนัยะคงหลัง 10 ปีข้างหน้าแต่ก็ยังมีรายได้มาจากพลังงานเกินกว่า 50%ของรายได้รวม"กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ