ทริสฯ ประกาศเครดิตพินิจ"Developing"อันดับเครดิตองค์กร SAWAD หลังเข้าซื้อ BFIT

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 6, 2017 17:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทริสเรทติ้งประกาศ “เครดิตพินิจ" แนวโน้ม “Developing" หรือ “ไม่ชัดเจน" ให้แก่อันดับเครดิตองค์กรของ บมจ.ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 (SAWAD) อันเป็นผลสืบเนื่องจากการที่บริษัทได้ประกาศเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2559 ว่าบริษัทจะซื้อกิจการ บริษัทเงินทุน (บง.) กรุงเทพธนาทร (BFIT) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ทั้งนี้ บริษัทจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ BFIT เพื่อครอบงำกิจการโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขในราคาไม่เกินหุ้นละ 11.42 บาท การประกาศเครดิตพินิจยังได้พิจารณาถึงความไม่แน่นอนที่อาจเกิดจากแผนปรับโครงสร้างของ SAWAD ภายหลังการครอบงำกิจการด้วย

ปัจจุบัน SAWAD ดำรงสถานะเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นหลักของ BFIT ด้วยสัดส่วนการลงทุน 9.84% ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว ภายหลังการซื้อหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการดังกล่าว บริษัทจะมีสถานะเป็นบริษัทแม่ของ BFIT หลังจากนั้น บริษัท จะดำเนินการจัดตั้งกลุ่มธุรกิจทางการเงินซึ่งจะอยู่ภายใต้เกณฑ์การกำกับแบบรวมกลุ่มของ ธปท. ทำให้ต่อไปบริษัทก็จะถูกกำกับดูแลโดย ธปท. รวมถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจและนโยบายบริหารความเสี่ยงก็จะถูกควบคุมและกำกับดูแลโดย ธปท. ด้วยเช่นกัน

ภายใต้กลุ่มธุรกิจทางการเงิน บริษัทจะดำเนินการปรับโครงสร้างโดยการโอนธุรกิจสินเชื่อแบบมีหลักประกันทุกชนิด รวมถึงสัญญาทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องให้แก่ บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะทำให้ SAWAD เปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่มีการประกอบธุรกิจของตนเอง ทั้งนี้ หลังจากเปลี่ยนมาเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่มีการประกอบธุรกิจของตนเองแล้ว อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับผลกระทบจากการด้อยสิทธิทางโครงสร้างโดยขึ้นอยู่กับผลสรุปของโครงสร้างกลุ่มธุรกิจทางการเงินที่จะถูกจัดตั้งขึ้นใหม่

แผนของบริษัทในการครอบงำกิจการและปรับโครงสร้างธุรกิจนั้นจะเกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขที่การทำธุรกรรมดังกล่าวจะต้องได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของบริษัทที่จะมาร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 มีนาคม 2560 นี้เสียก่อน รวมถึงบริษัทจะต้องสามารถซื้อหุ้นจำนวน 53,011,000 หุ้นของ BFIT (หรือคิดเป็น 26.51% ของทุนชาระแล้ว) จากกลุ่มผู้ถือหุ้นกลุ่มหนึ่งของ BFIT ที่ได้มีการตกลงกันในราคาไม่เกิน 10.50 บาทต่อหุ้นด้วย

ทริสเรทติ้งจะคอยติดตามการทำธุรกรรมดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและจะพิจารณาทบทวนเครดิตพินิจอีกครั้งหลังจากที่การทำธุรกรรมและการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่เสร็จสิ้นและทริสเรทติ้งได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ