KTAM ออกกองตราสารหนี้ ตปท.6 เดือน ผลตอบแทน 1.60% ขายวันนี้ถึง 17 ม.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 11, 2017 14:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 126 (KTFF126) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 17 ม.ค.60 อายุ 6 เดือน ซึ่งผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.60% ต่อปี ซึ่งกองทุนมีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

กองทุนดังกล่าว เน้นลงทุนตราสารหนี้ในต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ Qatar Nation Bank (London Branch) อัตราผลตอบแทน 2.20% ต่อปี,China Construction Bank Corporation Limited อัตราผลตอบแทน 1.85% ต่อปี, Commercial Bank of Qatar อัตราผลตอบแทน 1.75% ต่อปี,Union Nation Bank อัตราผลตอบแทน 1.80% ต่อปี,Ahli Bank QSC อัตราผลตอบแทน 18.50% ต่อปี และตราสารหนี้ Industrial and Commercial Bank of China Limited (Luxembourg Branch) อัตราผลตอบแทน 1.70% ต่อปี โดย Qatar Nation Bank และตราสารหนี้ Industrial and Commercial Bank of China Limited กองทุนลงทุนในสัดส่วน 13% ส่วนที่เหลือลงทุนในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 18% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และกองทุนมีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.24% ต่อปี

อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจค่อนข้างผันผวนประกอบกับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้สหรัฐ ได้กลับมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ หลังรายได้การจ้างงานต่อชั่วโมงของสหรัฐออกมาดีกว่าคาด ถึงแม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะต่ำกว่าคาดการณ์ก็ตาม โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุ อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.21% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 1.92% อายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 2.42% ต่อปี

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงข่าวกับสื่อมวลชนครั้งแรกหลังจากการเลือกตั้ง และแนวโน้มทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและเศรษฐกิจโลก ผลกระทบของ Brexit ต่อ EU และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในปี 60 การเติบโตของเศรษฐกิจจะอยู่ราว 3.5% มากกว่าการคาดการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยเล็กน้อย การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเฟด คาดว่าจะอยู่ที่ 2 ครั้ง โดยมองไปที่ครึ่งปีหลังมากกว่าครึ่งปีแรก และการเติบโตที่ดีขึ้นนั้นสหรัฐยังน่าจะเป็นไปได้ดีกว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ อัตราเงินเฟ้อค่อยๆปรับตัวสูงขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ