(เพิ่มเติม1) ESTAR ตั้งเป้าปี 60 รายได้ 2.2 พันลบ.ยอดขาย 1 พันลบ.เปิด 2-3 โครงการใหม่รวมกว่า 3 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 31, 2017 13:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท (ESTAR) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตในปี 60 จะมีรายได้อยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่คาดว่ามีรายได้มากกว่า 1.6 พันล้านบาท และยอดขายอยู่ที่ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่คาดว่าทำยอดขายได้มากกว่า 700 ล้านบาท

พร้อมเตรียมเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ จำนวน 2-3 โครงการ มูลค่าโครงการกว่า 3 พันล้านบาท โดยจะเป็นการเปิดโครงการในช่วงครึ่งปีหลังทั้งในเขตกรุงเทพฯและในอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยยังคงเน้นลูกค้าระดับกลาง-บน ด้วยกลยุทธ์การการพัฒนาโครงการที่เน้นการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเพิ่มความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท ซึ่งจะมีการทยอยโอนในปีนี้และปี 61 และในปัจจุบันบริษัทมีโครงการอยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการ Star View คอนโดมิเนียม วิวแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่าโครงการ 3.8 พันล้านบาท ปัจจุบันมีจำนวนยูนิตเหลือขายเพียง 15% คาดว่าจะปิดการขายได้ภายในปี 60

2.โครงการนารา 9 ติดรถไฟฟ้าช่องนนทรี มูลค่า 2.4 พันล้านบาท มียูนิตเหลือเมขายเพียง 17% ปัจจุบันอยู่ระหว่างการส่งมอบห้องให้ลูกค้า และ 3.โครงการแอมเบอร์ คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีติวานนท์ มูลค่า 2 พันล้านบาท อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พร้อมโอนกลางปี 61

สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 60 ควาดว่าภาพรวมของตลาดจะทรงตัว เพราะผู้บริโภคยังไม่มั่นใจในการใช่จ่ายมากนัก อีกทั้งราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงอย่างรวดเร็วตามแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ ในขณะที่กำลังซื้อผู้บริโภคอาจจะยังตามไม่ทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการต้องใช้ความระมัดระวัง และต้องเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มโครงการคอนโดมิเนียมยังมีความต้องการอีกมาก โดยส่วนใหญ่จะอยู่ไนพื้นที่คมนาคมสะดวก หรือแนวรถไฟฟ้าสายหลักและสายรอง หรือใกล้จุดขึ้นลงทรงด่วน แต่ก็ยังมีปัจจัยกดดันจากหนี้สินครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงระดับ 80% ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) ส่งผลกระทบต่อการขอสินเชื่อของลูกค้า เพราะปัจจุบันธนาคารพาณิชย์มีความเข้มงวดมาก ซึ่งบริษัทก็มีการให้คำปรึกษากับลูกค้าเพื่อเตรียมตัวก่อนยื่นขอสินเชื่อ ทำให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าที่ซื้อโครงการของบริษัทยังอยู่ในระดับต่ำ

นายาต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางในการขยายการเติบโตในอนาคต โดยมองโอกาสการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ทื่สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ขณะนี้บริษัทจะเน้นไปที่การสร้างรากฐานให้มีความแข็งแกร่งในระยะเวลา 1 ปี ก่อนที่จะขยายไปสู่ธุรกิจใหม่เพิ่มเติม เพราะบริษัทไม่ได้เปิดโครงการใหม่มาเป็นกว่า 2 ปีแล้ว และเพิ่งล้างขาดทุนสะสมได้หมด ช่วงนี้จึงเป็นช่วงของการขยายการเติบโต แต่บริษัทก็อยู่ระหว่างศึกษาการเปิดกว้างให้พันธมิตรเข้ามาร่วมทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต

ส่วนสำหรับงบซื้อที่ดินของบริษัทในปัจจุบันยังไม่ได้ตั้งไว้ เนื่องจากบริษัทมีที่ดินในมืออยู่จำนวนมากโดยเฉพาะที่ดินในจังหวัดระยอง ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าทำเลใดมีความเหมาะสมในพัฒนาโครงการอย่างไร และปีนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเจรจาขอซื้อที่ดินเพื่อไปพัฒนาต่อได้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีการเจรจากับผู้ประกอบรายใดรายหนึ่ง ซึ่งหากมีรายใดเข้ามาเจรจาขอซื้อบริษัทก็จะเปิดโอกาสในการพิจารณา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ