เอเชีย เวลท์ คาด SET สัปดาห์นี้ผันผวนตามนโยบาย"ทรัมป์" ให้กรอบ 1,571-1,595 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 6, 2017 12:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้จะยังคงผันผวนต่อตามประกาศนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่ยังเป็นช่วงท้าย ๆ ของการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาส 4/2559 ทั้ง ของสหรัฐฯ และไทย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามเช่นกัน โดยมองกรอบ SET Index จะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,571-1,595 จุด

สำหรับสัปดาห์นี้ ปัจจัยในประเทศจะต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งคาดว่าน่าจะคงอัตราดอกเบี้ย ด้านปัจจัยต่างประเทศ ตลาดยังคงรอการประกาศนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มเติม หลังจากในช่วงที่ผ่านมานายทรัมป์ ออกนโยบายด้านการปกป้องทางการค้า มาก่อน เนื่องจากอยู่ในอำนาจที่ประธานาธิบดีทำได้ และเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานายทรัมป์ ได้ออกคำสั่งในเชิงบวกต่อธุกิจ คือ คำสั่งทางการบริหารที่มุ่งจะยกเลิกหรือแก้กฎหมายและกฎระเบียบที่ขัดขวางการดำเนินธุรกิจ ที่สำคัญคือ กฎหมายดอดด์-แฟรงค์ (Dodd-Frank) ที่จำกัดการดำเนินธุรกิจการเงินทั้งของสถาบันการเงินและที่ไม่ใช่สถาบันการเงินอันมีมูลเหตุมาตั้งแต่การเกิดวิกฤตการเงินเมื่อปี 2550-2551 การออกคำสั่งของนายทรัมป์ได้ส่งผลให้ หุ้นธนาคารนำตลาดหุ้น Wall Street ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ในส่วนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ น่าจะต้องรอให้มีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีสหรัฐครบถ้วนก่อน

ด้านตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll) เดือนมกราคมที่ออกมาดีมาก พร้อมกับตัวเลขอัตราการว่างงานที่กลับเพิ่มขึ้น และตัวเลขค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้นน้อยมาก ทำให้มองกันว่า การขึ้นดอกเบี้ยในระยะสั้นอาจยังไม่จำเป็น แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังยืนยันว่าทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยยังเหมือนเดิมก็ตาม

นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในสัปดาห์นี้ Trading Idea ของ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำซื้อบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) จากการเติบโตอย่างมั่นคงของรายได้และกำไรในระยะยาว จำนวนผู้โดยสารสนามบินในปี 59 อยู่ที่ 121 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.8% จากปีก่อน และปี 60 คาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้สนามบิน เพิ่มขึ้นอีก 10% อยู่ที่ 133.8 ล้านคน โดยปี 59 มีเที่ยวบินอยู่ที่ 790,000 เที่ยว เพิ่มขึ้น 8.58% และคาดว่าปีนี้น่าจะเติบโตใกล้เคียงกับปี 59

แม้จะมีผลกระทบจากการปราบปรามของรัฐบาลเกี่ยวกับทัวร์ศูนย์เหรียญของจีน ในเดือน ต.ค.59 ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยในปี 2559 เท่ากับ 32.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9% และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มเป็น 34.15 ล้านคนในปี 2560 โตขึ้น 5.2%YoY

ขณะที่รัฐบาลมีเป้าหมายสำคัญที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของอาเซียนและเตรียมแผนการตลาดเชิงรุกเพื่อดึงนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจะส่งผลต่อการเติบโตของการท่องเที่ยวมากขึ้นทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวในประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศที่สำคัญ เช่น สิงคโปร์ รัสเซีย ญี่ปุ่น และจีน ได้เริ่มเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ธ.ค. แล้ว ส่วนผลกระทบของการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญของจีนคาดว่าจะค่อย ๆ ลดลง แต่คุณภาพของนักท่องเที่ยวในแง่ของการสร้างรายได้ต่อคนจะเพิ่มขึ้นในระยะยาว

“ด้านผลการดำเนินงาน กำไรสุทธิปี 59 อยู่ที่ 19,571 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าโต 10% อยู่ที่ 20,845 ล้านบาท ปี 61 จะเติบโตอีก 14% เราคงคำแนะนำซื้อ AOT ด้วยราคาเป้าหมาย 460 บาท อิงราคาพื้นฐานจากการประเมินมูลค่า DCF ที่ WACC เท่ากับ 9.86% ยังมี Upside อยู่ 11% จากราคาปัจจุบัน ซึ่งซื้อขายที่ PER เท่ากับ 27.2 เท่า แต่ต่ำกว่าค่า PER เฉลี่ยในอดีตของหุ้นที่ระดับ 30 เท่า" นายวรุตม์ กล่าว

นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า AOT จะเปลี่ยนแปลงพาร์จาก 10 บาท เป็น 1 บาท ซึ่งได้รับอนุมัติจากกระทรวงพาณิชย์แล้วในวันที่ 3 ก.พ.60 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเปลี่ยนไปใช้พาร์ใหม่ในเร็ว ๆ นี้ หลังจากมีการประกาศเป็นทางการผ่าน ตลาดหลักทรัพย์ฯ

ด้าน Technical รูปแบบราคา (Price Pattern) ของ AOT มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้นจากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal บ่งบอกถึงการทำ New High โดยมีเป้าหมายแรกเพื่อทดสอบ High เดิมที่ 422 บาท และมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 438 บาท ทั้งนี้ AOT มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 390 บาท ทั้งนี้ AOT มีแนวต้านที่ 418.00, 420.00, และ 422.00 บาท และมีแนวรับที่ 414.00, 412.00, และ 410.00 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ