เอเชีย เวลท์ คาด SET สัปดาห์นี้แกว่ง 1,579-1,594 จุด จับตา FED ส่งสัญญาณขึ้นดบ.-ผลนโยบายทรัมป์

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 14, 2017 13:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ซึ่งมีวันทำการเพียง 4 วัน มองกรอบ SET Index น่าจะเคลื่อนไหวที่ 1,579-1,594 จุด โดยปัจจัยสำคัญ คือ ตลาดหุ้น Wall Street ทำ New high ติดต่อกันมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน และตลาดหุ้นอื่น ๆ ก็ปรับบวกตาม

และปัจจัยที่สอง คือ นางเจเน็ท เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไปกล่าวสุนทรพจน์ที่รัฐสภาเป็นครั้งแรก ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าน่าจะมีการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปีนี้ เพราะตัวเลขล่าสุดของเฟด และตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ออกมาดี ที่สำคัญคือ การคาดการณ์เงินเฟ้อซึ่งเป็นตัวชี้วัดการขึ้นหรือไม่ขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้พุ่งขึ้นสูง

นอกจากนี้ ต้องติดตามผลประกอบการไตรมาส 4/59 ของทั้งสหรัฐและไทย โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น และจีนในระยะหลังล้วนออกมาดี ทั้งนี้ ตลาดจะผันผวนตามนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทยอยประกาศออกมา แต่คาดว่าข่าวลบน่าจะออกมาเกือบหมดแล้วที่เหลือน่าจะเป็นข่าวบวก

นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์การลงทุนให้เน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของภาครัฐ ในสัปดาห์นี้ Trading Idea ของ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำซื้อ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว และเศรษฐกิจไทยที่เติบโตได้ดี ซึ่ง BBL เป็นหุ้นที่เป็นตัวชี้นำเศรษฐกิจ โดยให้ราคาเป้าหมายปี 60 ที่ 203.00 บาท

"เราคาดว่าธนาคารน่าจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการขยายตัวของสินเชื่อทางธุรกิจโดยเฉพาะของบริษัทขนาดใหญ่หนุนโดยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐมูลค่ากว่า 1.1 ล้านล้านบาท ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปีนี้ เราประเมินว่ามากกว่า 60% ของเงินทุนจะมาจากการกู้ยืมสินเชื่อจากธนาคาร ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้า 5 เส้นทางมูลค่ากว่า 2.85 แสนล้านบาท ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย สายสีส้มตะวันตก สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย สายสีเขียวเข้มช่วงสมุทรปราการ-บางปู และสายสีเขียวเข้มช่วงคูคต-ลำลูกกา

ทั้งนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจะผลักดันให้ 5 โครงการนี้ถูกเสนอเข้า ครม.และอนุมัติให้ดำเนินการได้ภายในครึ่งปีแรก บ่งบอกว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐที่รอมานานได้เริ่มต้นอย่างจริงจังแล้ว นั่นหมายความว่านับจากนี้ไปความต้องการของสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนดำเนินโครงการเหล่านี้ก็จะตามมาด้วย"

นอกจากนี้ เรามองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมจะช่วยผลักดันความต้องการสินเชื่อของการลงทุนจากภาคเอกชน อื่น ๆ อีกด้วย นอกเหนือจากนั้น เรายังชอบ BBL ตรงที่ธนาคารมีคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง โดยในปี 59 อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ของธนาคารอยู่ที่ 173.6% นับเป็นระดับสูงสุดในอุตสาหกรรม เรามองว่าระดับการตั้งสำรองสูงนี้เพียงพออย่างมากในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้

และอีกปัจจัยที่สำคัญ มูลค่าหุ้น BBL น่าสนใจมากเนื่องจากซื้อขายกันในอัตราส่วนราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชีที่ถูกที่ 0.9 เท่า และให้อัตราเงินปันผลตอบแทนที่ประมาณ 3.8% เราคาดการณ์สินเชื่อของธนาคารปี 60 จะเร่งตัวเติบโต 7% จาก 3.9% ในปี 59 เราประมาณการกำไรจะเติบ 11.2% ในปี 60 และ 15.5% ในปี 61 ฟื้นตัวจาก -6.9% ในปี 59

ด้าน Technical รูปแบบราคา (Price Pattern) ของ BBL มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้งสัญญาณซื้อรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ BBL ที่สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือเป้าหมายเบื้องต้นที่ 177 บาทไปได้ จึงมีเป้าหมายต่อไปอยู่ที่ 188 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 198.50 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ BBL มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 173.50 บาท มีแนวต้านที่ 183.00, 183.50, และ 184.50 บาท และแนวรับที่ 182.00, 181.50, และ 180.50 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ