บลจ.กสิกรไทย ออกกองตราสารหนี้ไทย 2 ปี 8 เดือน ชูผลตอบแทน 2.10% ต่อปี,ขายวันนี้-20 ก.พ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 14, 2017 16:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนตราสารหนี้ บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า บริษัทจะออกกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ไทย 32 เดือน เอ (KTF32MA) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 2.10% ต่อปี กองทุนดังกล่าวมีอายุโครงการประมาณ 2 ปี 8 เดือน เหมาะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนได้ยาวขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น และสามารถยอมรับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงต่ำ โดยจะเสนอขายระหว่างวันที่ 14-20 ก.พ.นี้

KTF32MA จะเน้นการลงทุนในหุ้นกู้ชั้นนำของบริษัทในประเทศไทย โดยเบื้องต้นจะลงทุนในหุ้นกู้ที่ออกโดยบมจ.อีซี่ บาย , หุ้นกู้ที่ออกโดยบมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ซึ่งหุ้นกู้ทั้งสองได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ประเทศไทย ที่ระดับ AA+ และ A- ตามลำดับ นอกจากนี้ยังลงทุนในหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด, หุ้นกู้ที่ออกโดยบมจ.ศุภาลัย (SPALI) และหุ้นกู้ที่ออกโดยบมจ.ภัทรลิสซิ่ง ซึ่งทั้งหมดได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก TRIS ที่ระดับ A+, A และ A- ตามลำดับ ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวจะมีการจ่ายผลตอบแทนโดยการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุก ๆ 6 เดือน

สำหรับมุมมองตลาดตราสารหนี้ไทยนั้น เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยของไทยน่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง โดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายจนถึงสิ้นปี 60 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวอย่างช้า ๆ ทั้งนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกประเทศ ทั้งจากนโยบายของสหรัฐฯ จังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ รวมถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่ยังมีอยู่สูง ซึ่งอาจส่งผลทำให้ตลาดตราสารหนี้เกิดความผันผวนในระยะสั้น ดังนั้น บลจ.กสิกรไทยจึงแนะนำให้ผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนได้ในระยะยาว และสามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางถึงต่ำ อาจเลือกล็อกผลตอบแทนกับกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการที่มีกำหนดระยะเวลาลงทุนยาวนานขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น

นอกเหนือจากกองทุน KTF32MA ดังกล่าวแล้ว เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะเวลา 3-6 เดือน ในระหว่างวันที่ 14-20 ก.พ.นี้ บลจ.กสิกรไทยยังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ซีที (KFF6MCT) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.50% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน เอดับบลิว (KFF3MAW) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.40% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี

สำหรับกองทุน KFF6MCT ที่มีอายุโครงการ 6 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าไปลงทุนในเงินฝาก Commercial Bank of Qatar,เงินฝาก Al Khaliji Commercial Bank, ประเทศกาตาร์ และเงินฝาก Union National Bank ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Bank of China, เงินฝาก Agricultural Bank of China และเงินฝาก China Construction Bank Corporation

ด้านกองทุน KFF3MAW ที่มีอายุโครงการ 3 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Commercial Bank of Qatar, เงินฝาก Al Khaliji Commercial Bank, ประเทศกาตาร์, เงินฝาก Union National Bank ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เงินฝาก Bank of China, เงินฝาก Agricultural Bank of China และเงินฝาก China Construction Bank Corporation เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของบลจ.กสิกรไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ