KSL บวก 4.50% โบรกฯเล็งผลงานช่วงที่เหลือปี 59/60 รับแรงหนุนราคาขายน้ำตาลสูง,กำไร Q1 พุ่งมากจากรายการพิเศษ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 20, 2017 12:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น KSL ราคาวิ่งขึ้น 4.50% มาอยู่ที่ 5.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 101.95 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.49 น. โดยเปิดตลาดที่ 5.55 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 5.90 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 5.50 บาท

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) คาดว่าการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี 59/60 (พ.ย.59-ต.ค.60) จะมีปัจจัยหนุนจากราคาขายน้ำตาลที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงการดำเนินงานจากเอทานอลและไฟฟ้าจะมีทิศทางดีขึ้น โดยคงราคาพื้นฐาน 6.35 บาท

ทั้งนี้ ในไตรมาส 1 ของปี 59/60 (พ.ย.59-ม.ค.60) มีกำไรสุทธิ 453 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 27% จากงวดปีก่อน โดย กำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากได้รับเงินคืน 155 ล้านบาทจากค่ารักษาเสถียรภาพซึ่งบริษัทได้ฟ้องคดีผ่านศาลปกครองสูงสุด แต่หากการดำเนินงานปกติกำไรลดลง 8% จากงวดปีก่อน ผลจากปริมาณขายน้ำตาลลดลงถึง 43% อยู่ที่ 1.06 แสนตัน ขณะที่ราคาขายเพิ่มขึ้น 22% กลุ่มเอทานอลปริมาณขายที่ 23.17 ล้านลิตรเพิ่มขึ้น 8% แต่ราคาขายเหลือ 24.19 บาท/ลิตร

ส่วนกลุ่มไฟฟ้าปริมาณขายเพิ่มขึ้นมาที่ 70,746 MW-hr เนื่องจากปีก่อนมีหยุดซ่อมเครื่องจักร แต่ราคาขายเฉลี่ยลดลงเหลือ 2,770 บาท/MW-hr ส่งผลให้ยอดขายลดลง 24% จากงวดปีก่อน อยู่ที่ 2,894 ล้านบาท แต่พบว่าอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 32.9% จาก 29.7% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 12% จากปริมาณการส่งออกที่ลดลง อีกทั้งมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของที่ดินส่งผลให้รับรู้กำไรมากกว่าปกติ

แนวโน้มราคาน้ำตาลที่อยู่ในระดับสูงจากปัจจัยบวก 1) ปริมาณส่วนขาดน้ำตาลตลาดโลกที่คาดอยู่ที่ 3.05 ล้านตัน 2) คาดผลผลิตน้ำตาลของอินเดียอาจต่ำกว่าที่คาดไว้ทำให้ต้องมีการนำเข้า และ 3) ผลผลิตน้ำตาลของไทยอาจต่ำกว่าที่คาด โดย บริษัท อ้อยและน้ำตาลไทย จำกัด (อนท.) ได้ขายน้ำตาลไปแล้วที่ 85% ราคา 20 เซนต์/ปอนด์ จากแนวโน้มราคาน้ำตาลที่ยังอยู่ในระดับสูงและการดำเนินงานในต่างประเทศที่ดีขึ้นทำให้ทางฝ่ายยังมีมุมมองเป็นบวกต่อการฟื้นตัวของการดำเนินงาน

โดยคาดยอดขาย 18,158 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อนหน้า สมมติฐาน 1) ราคาน้ำตาล 22.5 เซนต์/ปอนด์ ปริมาณขายลดลง 5% 2) ปริมาณขายเอทานอล 90 ล้านลิตร ราคาขาย 25 บาท/ลิตร 3) ปริมาณขายไฟฟ้า 320,000 MW-hr ราคาขาย 3,000 บาท/MW-hr แต่ราคาน้ำตาลที่อยู่ในระดับสูงจะหนุนให้มาร์จิ้นดีขึ้น อีกทั้งในไตรมาส 2 จะยังรับรู้เงินค่ารักษาเสถียรภาพและกำไรจากการป้องกันความเสี่ยงเข้ามาทำให้ทั้งปีจะรับรู้รายการพิเศษราว 220 ล้านบาท คาดหมายกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1,557 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อนหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ