(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ใกล้เคียงภูมิภาค,เล็ง SCC ขึ้น XD มีผลต่อดัชนีฯ 1.28 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 4, 2017 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ ใกล้เคียงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยวันนี้จะมีหุ้นบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายปันผล ซึ่งจะมีผลต่อดัชนีฯราว 1.28 จุด

นอกจากนี้ ก็ยังมีข่าวเรื่องการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในกลางปี 2561 ซึ่งก็ถือว่าเป็นข่าวดีที่มีความชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ดีให้ติดตามการ Preview ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/60 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งก็เริ่มที่กลุ่มแบงก์ก่อน เพราะจะประกาศงบฯในเร็ว ๆ นี้

ส่วนปัจจัยนอกประเทศก็ให้ติดตามการพบปะของผู้นำจีนและผู้นำสหรัฐฯในช่วงสัปดาห์นี้ และการที่สหรัฐฯจะตรวจสอบสาเหตุการขาดดุลการค้ากับ 16 ประเทศทั่วโลกรวมถึงไทยด้วยนั้น ก็น่าจะยังคงกดดันต่อหุ้นในกลุ่มส่งออก

พร้อมให้แนวรับ 1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585-1,590 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (3 เม.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,650.21 จุด ลดลง 13.01 จุด (-0.06%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,894.68 จุด ลดลง 17.06 จุด (-0.29%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,358.84 จุด ลดลง 3.88 จุด (-0.16%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 49.41 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 2.28 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 5.19 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.46 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง ส่วนตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการเนื่องในวันเด็ก

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 เม.ย.60) 1,580.86 จุด เพิ่มขึ้น 5.75 จุด (+0.37%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,293.79 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 เม.ย.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (3 เม.ย.60) ปิดที่ 50.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 เม.ย.60) ที่ 6.61 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.34 ทรงตัวจากวานนี้ นลท.รอดูรายงานประชุม FED-ตัวเลขศก.สหรัฐฯ ปลายสัปดาห์นี้
  • นายกรัฐมนตรีเป็นปลื้ม หนี้สินครัวเรือนไทยลดลงในรอบ 11 ปี หลังประชาชนลดกู้ซื้อรถ ทำบัตรเครดิต และใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง ยันรัฐยังคงเดินหน้าช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ทั้งแก้หนี้สะสม สร้างอาชีพ และส่งเสริมการออม ส่วนการลงทะเบียนคนจนรอบ 2 คาดทะลุ 10 ล้านราย เตรียมออกบัตรสวัสดิการรับสิทธิประโยชน์ ทั้งส่วนลดค่าน้ำ ค่าไฟ ขึ้นรถเมล์ รถไฟฟรี
  • รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้จะเชิญผู้ส่งออก ผู้นำเข้า เอกชนไทยที่เข้าไปลงทุนในสหรัฐอเมริกา และนักลงทุนสหรัฐที่เข้ามาลงทุนในไทย มาหารือเพื่อประเมินผลกระทบต่อไทย หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ลงนามคำสั่งพิเศษเพื่อดำเนินการตรวจสอบการขาดดุลการค้าของสหรัฐกับ 16 ประเทศทั่วโลก รวมถึงไทย โดยที่เป็นผู้ได้ดุลการค้าอันดับที่ 11
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือน มี.ค. 2560 ที่ผ่านมาว่า ดัชนีปรับดีขึ้น จากเดือนก่อนที่ระดับ 49.8 มาอยู่ที่ระดับ 52.6 สะท้อนว่าภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และเมื่อขจัดผลของปัจจัยชั่วคราวด้านฤดูกาลออก ดัชนีอยู่ที่ระดับ 51.0 ถือเป็นการปรับดีขึ้นสูงสุดในรอบ 24 เดือน สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ตามความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะผู้ส่งออกในกลุ่มธุรกิจกระดาษและการพิมพ์ การผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ กลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และการผลิตยานยนต์ตามทิศทางการส่งออกที่ปรับดีขึ้น
  • ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำนักงานได้ปรับคาดการณ์ดัชนีราคา ผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) ปี 2560 ใหม่ จากเดิมขยายตัว 1.5-2% เพิ่มเป็น 1.5-2.2% ภายใต้สมมติฐาน การขยายตัวเศรษฐกิจของประเทศเติบโต 3-4% ซึ่งเป็นผลจากการใช้จ่ายของภาครัฐที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สะท้อนจากการทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม วงเงิน 1.9 แสนล้านบาท และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปีนี้ การบริโภคภาคเอกชนมีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง ตามรายได้เกษตรกรที่เพิ่มขึ้น และรายได้จากการส่งออกขยายตัวดีขึ้น
  • รมว.คลัง เผยเอดีบีเตรียมให้ความช่วยเหลือไทยในด้านวิชาการพัฒนาอุตสาหกรรมประเทศไปสู่ระบบ 4.0 ด้าน รองประธานเอดีบี ระบุ มูลค่าความช่วยเหลือไทยตลอด 50 ปีที่ผ่านมามีทั่งสิ้น 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะการเงินในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาว่า สินเชื่อภาคเอกชนของสถาบันรับฝากเงินทั้งระบบไม่ว่าธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ มีวงเงินรวม 16.75 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน 3.9% ส่วนเงินฝากรวม ตั๋วแลกเงินทั้งระบบมี 18.1 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.5%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CPF (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 38 บาท ซื้อธุรกิจ Trading ในอังกฤษชื่อ Westbridge Food Group (WFGL) ในสัดส่วน 100% ใช้เงิน 2.6 พันล้านบาท (กำไรของ WFGL คิดเป็น 1.6% ของกำไร CPF) เป็นดีลขนาดเล็ก ไม่กระทบประมาณการ แต่ช่วยขยายช่องทางเข้าตลาดยุโรปให้กับ CPF โดยเลี่ยงผลกระทบจากภาษีนำเข้าในอัตราสูง เพราะ WFGL มีบริษัทที่มีโควตานำเข้าเนื้อสัตว์ปีกและสินค้าที่ทำจากเนื้อสัตว์ปีกสู่สหภาพยุโรป ทั้งในอังกฤษและเนเธอร์แลนด์
  • ANAN (เคจีไอฯ) "เก็งกำไร" เป้า 5.8 บาท ประเมินรูปแบบราคามีโอกาสดีดตัวขึ้น และ ANAN จะทำการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ถึง 17 โครงการ (7 โครงการใน 1H60 และ 10 โครงการใน 2H60) เป็นปัจจัยหนุนในกำไร 2 ปีนี้โตเฉลี่ยถึง 24% CAGR 2559 - 2561 ขณะที่ PE ปีนี้ยังต่ำเพียง 9.4 เท่า อีกทั้งประเด็นหนี้ครัวเรือนที่ลดลงในรอบ 11 ปี คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาฯ
  • IRPC (ยูโอบี เคย์เฮียน) ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 คาดแย่สุดจากการปิดซ่อม CDU เป็นเวลา 30 วัน และ UHV เป็นเวลา 2 เดือน อย่างไรก็ตามแนวโน้มกำไรอาจไมได้แย่อย่างที่เคยกังวลจากค่าการกลั่นรวม (GIM) ที่สูงถึง 13-14 เหรียญ/บาร์เรล และคาดกำไรฟื้นตัวโดดเด่นตั้งแต่ 2Q60 เป็นต้นไป
  • PTTEP (แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 106 บาท มุมมองเป็นบวกต่อข่าว กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เผยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาเพื่อกำหนดเงื่อนไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขประมูล (TOR) ซึ่งคาด TOR จะแล้วเสร็จในช่วงปลาย เม.ย.60 และนำเสนอ ครม. อนุมัติใน มิ.ย.60 โดยคาดส่งผลดีต่อ PTTEP ซึ่งแหล่งบงกชของบริษัทจะหมดอายุในปี 65-66 โดย PTTEP ในฐานะผู้ประกอบการรายเดิม น่าจะมีโอกาสค่อนข้างสูงที่จะชนะประมูลในครั้งนี้ รวมถึงการเปิดประมูลสัมปทานรอบที่ 21 ต่อไปอีกด้วย บวกกับ คาดหวังการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ที่คาดจะได้ข้อสรุปภายในปี 60 และราคาน้ำมันดิบโลกฟื้นตัวมาอยู่เหนือ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปัจจุบัน จะเป็นปัจจัยให้ราคาหุ้นปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ