โบรกฯ เชียร์"ซื้อ"TU เล็งกำไรปี 60 ฟื้นหลังปรับขึ้นราคาขายแซลมอน-ลุ้น Red Lobster ทำกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 17, 2017 14:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ เชียร์"ซื้อ"หุ้นบมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เล็งกำไรปี 60 ฟื้นตัวขึ้นจากที่หดตัวในปีก่อน หลังธุรกิจแซลมอนสามารถปรับขึ้นราคาขายครอบคลุมต้นทุนที่สูงขึ้นได้ จากที่เคยขายขาดทุนเมื่อปีก่อน ขณะที่ธุรกิจอื่นที่ลงทุนไปเมื่อปีที่แล้วในประเทศต่าง ๆ จะเริ่มสร้างรายได้เข้ามาหรือบางตัวนาจะเริ่มมีกำไร อย่าง Red Lobster

แม้ว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 1/60 ของ TU อาจยังไม่ค่อยดีนัก จากผลกระทบต้อนทุนวัตถุดิบปลาทูน่าที่สูงขึ้น และเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของ TU แต่เชื่อว่าแนวโน้มกำไรจะฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/60 จากทั้งธุรกิจทูน่าและกุ้ง ขณะที่ต้นทุนปลาทูน่าเริ่มปรับลดลงมาและลูกค้าเริ่มสต็อกสินค้าก่อนเข้าโลว์ซีซั่นของปริมาณผลผลิตในไตรมาส 3/60

ขณะที่ธุรกิจแซลมอนคาดว่าจะพลิกกลับมามีกำไร รวมถึงเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นต่อเนื่องในธุรกิจ Red Lobster

พักเที่ยงวันนี้ราคาหุ้น TU อยู่ที่ 21.10 บาท ลดลง 0.10 บาท (-0.47%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยลดลง 0.61%

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)    ซื้อ                 29.00
          ธนชาต                        ซื้อ                 26.00
          ทรีนีตี้                         ซื้อ                 25.00
          เอเชีย เวลท์                   ซื้อ                 25.00
          ฟินันเซีย ไซรัส                  ซื้อ                 24.00
          ฟิลลิป (ประเทศไทย)             ซื้อ                 22.70

น.ส.สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในปี 60 ของ TU น่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นจากปีที่แล้วที่ไม่เติบโต หลังจากธุรกิจแซลมอนฟื้นตัวจากการขาดทุนหนักในปีก่อน เนื่องจากสามารถทยอยปรับขึ้นราคาขายได้ ทำให้สามารถครอบคลุมต้นทุนที่ปรับขึ้นไปได้ จากเดิมที่ราคาขายต่ำกว่าทุนเนื่องจากทำสัญญาขายล่วงหน้า

ส่วนธุรกิจอื่นที่ทาง TU ลงทุนซื้อกิจการไปเมื่อปีที่แล้ว มาในปีนี้จะเริ่มสร้างผลตอบแทนให้ อย่าง Red Lobster ที่คาดว่าปีนี้น่าจะทำกำไรได้ หรืออย่างน้อยน่าจะคุ้มทุน ซึ่งก็ดีกว่าปีที่แล้ว

สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 1/60 ของ TU คาดว่าจะยังไม่ค่อยดีนัก เพราะต้นทุนปลาทูน่าปรับขึ้นส่งผลกระทบต่อมาร์จิ้น อีกทั้งปกติแล้วไตรมาส 1 ของทุกปีเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของ TU ด้วย อย่างไรก็ดี คาดว่าจะเห็นธุรกิจของ TU ดีขึ้นได้ในไตรมาส 2-3/60

"TU เป็นบริษัทซีฟู้ดรายใหญ่รายหนึ่งของโลก และเป็นผู้ผลิตทูน่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นแนวโน้มการเติบโตจะเป็นไปในทิศทางที่ดีทั้งในระยะกลาง และระยะยาว ฐานธุรกิจของ TU มีอยู่ในหลาย ๆ ประเทศ ทั้งในไทย, สหรัฐฯ รวมถึงยุโรป ซึ่งในต่างประเทศก็มีแบรนด์มาก และ TU ยังคงจะขยายไปหลายประเทศ...ราคาหุ้น TU ในปัจจุบัน 20 บาทต้น ๆ ก็ยังน่าสนใจลงทุน"น.ส.สุทธาทิพย์ กล่าว

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ 60 ไว้ที่ 6,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 5,254 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 58 ที่มีกำไรสุทธิ 5,373 ล้านบาท

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯ โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/60 อยู่ที่ 1,289 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.9% จากไตรมาสก่อน และ เพิ่มขึ้น 4.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่หากไม่รวมกำไรอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่อนข้างสูงราว 300 ล้านบาท คาดมีกำไรปกติที่ 989 ล้านบาท ลดลง 23.6% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 2.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ถือว่ายังไม่สดใสนัก ส่วนหนึ่งมาจากยังเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจ

ในไตรมาส 1/60 ธุรกิจทูน่าแบรนด์ (MWB) ไม่สดใสนัก เพราะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับปอนด์และยูโรแข็งค่ามากราว 18% และ 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนธุรกิจกุ้งได้รับผลกระทบจากราคาวัตถุดิบในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นเพียงเหตุการณ์ชั่วคราว กอปรกับค่าเงินบาทแข็งค่า จึงคาดรายได้สกุลบาทจะอ่อนตัวลง 4% จากไตรมาสก่อน และเติบโตเล็กน้อย 3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน รวมถึงแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะยังไม่สดใสนักคาดไว้ที่ 13.8% ลดลงจาก 14% ในไตรมาส 4 ปี 59 และ 15.5% ในไตรมาส 1/59

แต่ธุรกิจปลาแซลมอนเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยพลิกกลับมีกำไรขั้นต้นแล้ว แม้ว่าในส่วนของกำไรสุทธิน่าจะยังขาดทุนเล็กน้อย แต่ธุรกิจที่ดีขึ้นคือ Red Lobster ที่บริษัทได้รับเป็นเงินปันผลสม่ำเสมอปีละ 8% และไตรมาสนี้คาดจะรับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไรได้แล้ว หลังจากรับรู้ขาดทุนในไตรมาสก่อนราว 118 ล้านบาท

แนวโน้มกำไรจะกลับมาฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/60 เป็นต้นไป จากทั้งการฟื้นตัวของธุรกิจกุ้ง หลังผ่านเหตุการณ์น้ำท่วม และปริมาณผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น ราคาปลาทูน่าเริ่มปรับลดลง ล่าสุดเดือน มี.ค.อยู่ที่ 1,500 เหรียญสหรัฐ/ตัน ลดลงจาก 1,700 เหรียญสหรัฐ/ตันในเดือน ก.พ.เป็นบวกต่อปริมาณขายลูกค้า OEM ที่น่าจะเร่งสต็อกมากขึ้นก่อนเข้า Low Season ของปริมาณผลผลิตในไตรมาส 3 พร้อมทั้งคาดว่าธุรกิจปลาแซลมอนจะพลิกกลับมามีกำไรอีกครั้ง และ น่าจะเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่องของธุรกิจ Red Lobster

ดังนั้น ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 60 ไว้ที่ 6,617 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากปีที่แล้ว

ส่วนบทวิเคราะห์ของ บล.ธนชาต ยังคงมองกำไรของ TU จะเติบโต 14-19% ในปี 60-62 จากธุรกิจต่าง ๆ ที่มีการดำเนินงานที่ดีขึ้น ทั้งธุรกิจแซลมอนที่เคยมีปัญหาจากลานินญ่า ก็เริ่มคลี่คลายและพลิกกลับมาคุ้นทุน ,ธุรกิจ Red Robster ซึ่งมีไฮซีซั่นในไตรมาส 1 คาดว่าจะส่งผลกำไรไตรมาส 1/60 ให้เติบโตดี ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 14.8% มาที่ 15.2-16.1% ในปี 60-62 มอง PE ที่ 16x ยังไม่แพง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ