GREEN เปิดตัวพันธมิตรลุยชิงโซลาร์ฟาร์มราชการ 2 โครงการ,เล็งเข้าร่วมพัฒนาอีก 10 MW

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 17, 2017 17:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.ต.สหัสชัย อินทรสุขศรี ประธานกรรมการ บมจ.กรีน รีซอร์สเซส (GREEN) กล่าวว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท คือ นายชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ในกลุ่มบมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA) มีวิสัยทัศน์ไปในทางเดียวกันกับบริษัท ที่นอกเหนือจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ GREEN แล้ว ก็ยังควรมองหาธุรกิจอี่นเพื่อกระจายความเสี่ยงด้านความสม่ำเสมอของรายได้ของบริษัท และเพื่อความยั่งยืนของโลก

โดยมีความคิดเห็นตรงกันที่จะมุ่งพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ซึ่งนายชัยสิทธิ์ ได้แสดงวิสัยทัศน์และแนวทางในการดำเนินธุรกิจให้ผู้ถือหุ้นได้รับทราบในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา อีกทั้งให้ความเชื่อมั่นว่าจะดำเนินธุรกิจให้สามารถมีผลกำไรและปันผลคืนกลับผู้ถือหุ้นได้แน่นอน ซึ่งได้รับการตอบรับและยอมรับจากกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยเป็นอย่างดี

ล่าสุด GREEN ได้แสดงความจำนงในการเข้าร่วมในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) สำหรับหน่วยราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ภายใต้โควตาขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก โดยได้ยื่นความจำนงไว้ 2 โครงการ ภายใต้บริษัท กรีน รีซอร์สเซส จำกัด และบริษัท เอซีดี เอ็นเนอร์ยี่ ซึ่งเป็นบริษัทลูก เพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 5 เมกะวัตต์ 2 โรง รวมเป็น 10 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะได้ทราบผลภายใน 2-3 เดือนนี้

นอกจากนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เข้ามานี้ ก็ยังมีโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 10 เมกะวัตต์ อยู่ในมือ ซึ่ง GREEN มีความพร้อมที่จะเข้าไปร่วมจับมือกับนายชัยสิทธิ์ในการพัฒนาโรงไฟฟ้าดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ และคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2560

อนึ่ง ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ วันที่ 17 มี.ค.60 กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของ GREEN ได้แก่ นายไต้ ชอง อี ถือหุ้น 20.6% ,นายพิสุทธิ์ วิริยะเมตตากุล ถือหุ้น 6.01% ,พ.ต.ต.สหัสชัย ถือหุ้น 3.99% ,นายณัท มานะสมจิตร ถือหุ้น 3.96% ขณะที่นายพิจิตต์ วิริยะเมตตากุล ถือหุ้น 0.98%

นายชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล กรรมการผู้จัดการ ของ VIBHA และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน GREEN เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ตนได้เข้าไปถือหุ้นใน GREEN กว่า 10 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 10% เป็นการซื้อหุ้นผ่านการขายบิ๊กล็อต โดยได้ถือหุ้น GREEN มาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปีแล้ว การลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนส่วนตัวของตน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลวิภาวดี และตนไม่ได้นั่งเป็นคณะกรรมการใน GREEN อีกด้วย

เมื่อการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา ตนได้เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น และมีกรรมการของบริษัทเป็นผู้แนะนำตนในที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งปัจจุบันบุตรชาย คือ นายพิพัทธ์ วิริยะเมตตากุล นั่งเป็นกรรมการใน GREEN อยู่แล้ว

ส่วนการที่ตนได้เข้าไปประชุมผู้ถือหุ้นนั้น เพื่อเข้าไปฟังแผนการดำเนินงานต่าง ๆ ของบริษัท เพราะที่ผ่านมาบริษัทดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ประสบความสำเร็จและประสบกับภาวะขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง เพราะในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันที่สูงมาก ทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายเล็กไม่สามารถที่จะแข่งขันกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ได้ อีกทั้งเรื่องเงินทุนถือว่ามีความแข็งแกร่งไม่มากเมื่อเทียบกับบริษัทใหญ่ ทำให้ติดขัดเรื่องการเงินในการพัฒนาโครงการ ทำให้ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ GREEN ไม่ประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตามทางคณะกรรมการบริษัท GREEN มีความคิดที่จะปรับแผนการดำเนินธุรกิจไปสุ่ธุรกิจอื่น ๆ ที่สร้างผลตอบแทนกลับคืนมาให้กับบริษัท และสามารถพลิกบริษัทให้กลับมามีกำไรได้ โดยที่ผ่านมามีกรรมการบริษัทมาขอความเห็นจากตนถึงการลงทุนในธุรกิจอื่น โดยเฉพาะธุรกิจพลังงานทดแทน ได้แก่ โครงการโซลาร์ฟาร์มและโครงการโซลาร์รูฟท็อปที่ตนมีพันธมิตรที่รู้จัก ซึ่งสามารถแนะนำให้ร่วมมือกับทาง GREEN ได้ ซึ่งปัจจุบันทางคณะกรรมการของ GREEN อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางการลงทุนธุรกิจใหม่ในอนาคต ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาและเปิดกว้างให้มีพันธมิตรเข้ามาร่วมมือ เพื่อสร้างผลตอบแทนกลับมาให้กับบริษัท

"ผมถือหุ้น GREEN มาปีกว่าแล้ว ตอนนั้นซื้อ BIGLOT มากว่าสิบล้านหุ้น สัดส่วนไม่น่าจะถึง 10% และผมก็ไม่ได้นั่งเป็นกรรมการใน GREEN ด้วย มีแค่ลูกชายผมที่นั่งเป็นกรรมการอยู่แล้ว แต่การลงทุนนี้เป็นการลงทุนส่วนตัวไม่เกี่ยวกับโรงพยาบาลวิภา ซึ่งคณะกรรมการเขาแนะนำผมให้ผู้ถือหุ้นรู้จักในที่ประชุมผุ้ถือหุ้นของ GREEN ที่ผ่านมา

โดยที่ผ่านมา GREEN เข้าก็อยากเปลี่ยนไปลงทุนในธุรกิจอื่นที่สร้างผลตอบแทนกลับคืนให้กับบริษัท เพราะปัจจุบันการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทไม่ประสบความสำเร็จเลย ทำให้บริษัทขาดทุน และการแข่งขันในธุรกิจอสังหาฯก็สูง GREEN เป็นรายเล็กสู้รายใหญ่ในตลาดไม่ได้ และทุนก็ยังไม่มากพอ ทำให้การลงทุนติดขัด ซึ่งในส่วนของผมที่ผ่านมาก็มีกรรมการบริษัทมาขอคำปรึกษาในการลงทุนธุรกิจอื่น ซึ่งผมมีกลุ่มพันธมิตรที่พลังงานโซลาร์ฟาร์ม และโซลาร์รูฟท็อป สามารถติดต่อเพื่อร่วมมือกับ GREEN ได้ หากบริษัทต้องการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางบริษัทกำลังศึกษาอยู่ว่าจะลงทุนในธุรกิจใหม่ประเภทไหน"นายชัยสิทธิ์ กล่าว

นายชัยสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ตนจะยังคงถือหุ้น GREEN ต่อไป และมองไปที่การเดินหน้าของบริษัท เพราะแนวโน้มในอนาคตอาจจะเห็นการเติบโตของบริษัทหากหันไปลงทุนในธุรกิจใหม่ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีกลับมา ซึ่งตนก็ยินดีให้ความช่วยเหลือกับทางบริษัทในฐานะผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ