KTB คาดสินเชื่อรายใหญ่ Q2/60 โตชะลอลงจากฐานใหญ่ขึ้นหลัง Q1/60 โต 4-5%, ศึกษาร่วมปล่อยกู้"วัน แบงค็อก"กลุ่มเสี่ยเจริญ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 21, 2017 11:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางจรี วุฒิสันติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานธุรกิจขนาดใหญ่ 1 ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า แนวโน้มการเติบโตสินเชื่อรายใหญ่ในไตรมาส 2/60 คาดว่าจะเห็นการเติบโตที่ชะลอตัวลงจากไตรมาส 1/60 ที่สินเชื่อรายใหญ่ของธนาคารเติบโตราว 4-5% เพราะในช่วงไตรมาส 1/60 ที่ผ่านมาธนาคารมีการให้สินเชื่อแก่ลูกค้าใหญ่ที่เข้ามาขอสินเชื่อเพื่อนำไปลงทุนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่ได้เปิดประมูลไปแล้วในไตรมาสแรก ซึ่งทำให้ลูกค้ารายใหญ่มีความต้องการใช้สินเชื่อเพื่อรองรับการลงทุนที่จะเกิดขึ้น ทำให้เห็นการเติบโตของสินเชื่อรายใหญ่ค่อนข้างมากในไตรมาส 1/60

ส่วนในไตรมาส 2/60 ยังมองว่าความต้องการสินเชื่อยังคงมีอยู่ แต่อาจจะชะลอความต้องการใช้ลงไปบ้างจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา ประกอบกับมีลูกค้าบางส่วนทยอยคืนเงินกู้กับธนาคารด้วย ทำให้แนวโน้มสินเชื่อรายใหญ่มีการชะลอตัวลง โดยปัจจัยที่จะกระตุ้นความต้องการใช้สินเชื่อของลูกค้ารายใหญ่จะต้องหวังการเปิดประมูลโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้ภาคธุรกิจมีการลงทุนตาม ซึ่งจะทำให้มีการขอใช้สินเชื่อมากขึ้น และธนาคารยังมั่นใจว่าสินเชื่อรายใหญ่ของธนาคารในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้โต 4%

อย่างไรก็ตามในภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่เห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในปัจจุบัน ธนาคารยังไม่มีความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้ารายใหญ่มากนัก เพราะลูกค้ารายใหญ่มีความแข็งแกร่งของธุรกิจและมีการบริหารสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีอาจจะกระทบต่อรายได้ของลูกค้าบ้าง แต่ไม่ได้กระทบรายได้ของลูกค้าจนไม่สามารถชำระหนี้ได้ อีกทั้งจะเห็นว่าลูกค้ารายใหญ่ยังมีการเบิกใช้วงเงินสินเชื่อเสริมสภาพคล่อง (Working Capital) เพื่อบริหารสภาพคล่องของบริษัทให้ดี ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ธุรกิจเดิหน้าต่อได้

โดยที่ผ่านมาสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่มีสัดส่วนน้อยมาก และในไตรมาส 1/60 ที่ธนาคารแจ้งผลการดำเนินงานออกมาและพบว่ามี NPL ที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 9 พันล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากลูกค้าเอสเอ็มอีขนาดเล็ก และเอสเอ็มอีขนาดกลาง-ใหญ่ ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง

นอกจากนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณาในการร่วมเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อเพื่อการพัฒนาโครงการ One Bangkok บริเวณหัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระราม 4 ติดกับสวนลุมพินี มูลค่าโครงการกว่า 1.2 แสนล้านบาท ของกลุ่มบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่และมีมูลค่าการลงทุนที่สูงมากระดับแสนล้านบาท ทำให้ธนาคารเห็นถึงโอกาสที่จะเข้าไปเป็นส่วนร่วมในการให้สินเชื่อในโครงการดังกล่าว เพราะกลุ่มบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยหลายโครงการ และเป็นกลุ่มที่มีเงินทุนและสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง อีกทั้งมองว่าโครงการ One Bangkok เป็นโครงการที่มีศักยพภาพสูง ซึ่งเป็นโครงการที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยหากธนาคารได้เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้โครงการดังกล่าวจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้สินเชื่อของธนาคารสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ